วันนี้เราจึงนำความรู้ทางสมุนไพรสรรพคุณกะหล่ำปลีม่ว งและประโยชน์ ของกะหล่ำปลีม่วงมาฝากกันอีกเช่นเคยค่ะ คนส่วนใหญ่มักจะนำกะหล่ำปลีมม่วงนี้มาทำสลัดกินกันเย อะเลยค่ะ นั้นเราอย่ารอช้ามาดูสรรพคุณกะหล่ำปลีม่วงและประโยชน ์ของกะหล่ำปลีม่วงที่ เรารวบรวมข้อมูลมาให้ดีกว่าค่ะว่าจะมีประโยชน์ต่อร่า งกายของเรานั้นแค่ไหน กันเอ่ย
คุณค่าทางอาหารของกะหล่ำปลีม่วง
ด้วยเนื้อผักกรุบกรอบของกะหล่ำปลีสีม่วงมีสาร อินไทบินที่ออกรสขมกว่ากะหล่ำปลีสีขาวธรรมดา แต่สารอินไทบินัวนี้มีส่วนสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญส ารอาหารในร่างกายช่วย กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงตับ ถุงน้ำดี ไต และกระเพาะดีขึ้น นอกจากนี้กะหล่ำปลีสีม่วงยังอุดมด้วยธาตุเหล็กจึงช่ว ยเสริมฮีโมโกลบินให้แก่ ร่างกาย ซึ่งฮีโมโกลบินเป็นตัวการสำคัญที่นำพาออกซิเจนไปกับเ ม็ดเลือดแดงเพื่อหล่อ เลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ
ในกะหล่ำปลีมีสารเอสเมธิลเมโธโอนินสามารถรักษาโรคกะเ พาะอาหารและมี สารกอยโตรเจนที่ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคคอพอก นอกจากนั้นยังพบว่า มีสารต้านมะเร็งโดยเฉพาะหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซ ลล์มะเร็งลำไส้ มีการวิจัยพบกะหล่ำปลีใช้ประคบเต้านมลดปวดแก้นมคัดแม ่หลังคลอด
สรรพคุณ / ประโยชน์ของกะหล่ำปลีม่วง (กะหล่ำปลีแดง)
กะหล่ำปลีแดงเป็นพืชที่มีเยื่อใยอาหารสูงและอุดมไปด้ วยคุณค่าสาร อาหารหลายชนิด เช่น โปรตีน (สาร indols ซึ่งเป็นผลึกที่แยกมาจาก trytophan กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย) คาร์โบไฮเดรต โซเดียม วิตามินซีซึ่งพบค่อนข้างมากกว่า กะหล่ำปลีสีเขียวถึงสองเท่า ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันมีสารซัลเฟอร์ (Sulfer) ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่และต้านสารก่อมะเร็ง ที่เข้าสู่ร่างกาย
การกินกะหล่ำปลีบ่อย ๆ จะช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งในช่องท้อง ลดระดับคลอเรสเตอรอลและช่วยงับประสาททำให้นอนหลับดี น้ำกะหล่ำปลีคั้นสด ๆ ช่วยรักษาโรคกะเพาะ อย่างไรก็ตามกะหล่ำปลีมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า goitrogen เล็กน้อย ถ้าสารนี้มีมากจะไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ทำใ ห้นำไอโอดีนในเลือดไป ใช้ได้น้อย ดังนั้นไม่ควรกินกะหล่ำปลีสด ๆ วัยละ 1-2 กก. แต่ถ้าสุกแล้วสาร goitrogen จะหายไป
กะหล่ำปลีแดงนิยมรับประทานสด เช่น ในสลัดหรือนำมาตกแต่งจานอาหาร การนำมาประกอบอาหารไม่ควรผ่านความร้อนนาน เพราะจะทำให้สูญเสียวิตามินและคุณค่าอาหาร
__________________
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น