วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บั้นท้ายดำคล้ำ-แตกลาย ..แก้ไขได้

|0 ความคิดเห็น

แม้ว่า ก้น จะเป็นอีกจุดซ่อนเร้น ที่มิใช่ว่าใครจะมองเห็นได้ง่ายๆ เมื่อมีปัญหาบั้นท้ายดำคล้ำ หรือเกิดรอยแตกลาย จึงไม่น่าจะมีปัญหา ทว่าแท้จริงแล้วไม่เลยค่ะ เพราะมีสาวเราจำนวนไม่น้อยเลย ที่ต้องนั่งกลุ้มอกกลุ้มใจเมื่อก้นของเธอเต็มไปด้วยร อยกระดำกระด่าง
 
ก็สาวเราน่ะ ยอมได้ที่ไหน อยากสวยตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้ากันทั้งนั้น แค่คิดว่าใส่บิกินี่ (Bikini) แล้ว รอยแตกลายโผล่ จนหนุ่มริมสระแอบหัวเราะคิกคัก ก็แทบเกินทน นี่ยังไม่นับความกังวลใจซึ่งสาวบางนาง ถึงกับไม่กล้าเปิดไฟกุ๊กกิ๊กกับแฟนหนุ่ม ด้วยกลัวจะถูกแซวเป็น “แม่สาวตูดลาย”


บั้นท้ายดำคล้ำ-แตกลาย ..แก้ไขได้

By Lady Manager
หลายคนเลือกใช้วิธีขัดถู หาสารพัดครีมมาทา หวังให้รอยดำที่บั้นท้ายได้จางลง แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่บรรเทา ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะคุณแก้ปัญหาไม่ถูกจุด!
ว่าแล้วเรามาเจาะลึกหาสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไขอย่างถูกต้อง เพื่อให้บั้นท้ายกลับมาไฉไลไปกับ แพทย์หญิงธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท กันค่ะ

สิว-แตกลาย-รอยดำ อาการฮิตที่พบบนบั้นท้าย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกล่าว ว่าอาการก้นลายมีอยู่ 3 ลักษณะด้วยกัน คือ ก้นลายจากรอยสิว, จากรอยผื่นแพ้, และจากรอยแตก อันเนื่องมาจากการที่ร่างกายเติบโตเร็ว
“ก้นลาย ก้นไม่สวย มีหลายลักษณะด้วยกัน หนึ่ง-ก้นลายจากการเป็นสิว เมื่อสิวหายก็ทำให้เกิดรอยดำ ดูกระดำกระด่าง แบบนี้จะเจอบ่อยที่สุด สอง-ก้นลายจากการเป็นรอยแตกลาย ซึ่งมีทั้งรอยแตกลายจากการที่ร่างกายเติบโตเร็ว ก็เกิดเป็นรอยแตกลายที่ก้นได้ หรือคนที่อ้วน คนที่ตั้งครรภ์ อันนี้ก็เกิดเป็นลายอีกลักษณะหนึ่ง และสาม-ก้นลายจากรอยดำ ที่เคยเป็นผื่นแพ้ เช่น เป็นผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณก้นแล้วเหลือเป็นรอยดำตา มมา
สำหรับลักษณะของรอยแต่ละแบบมีความ ต่างกันเล็กน้อย แต่บางคนก็แยกไม่ออก หรือบางคนก็มีหลายอย่างปนกัน คือ มีทั้งแตกลายจากการโตเร็ว และมีทั้งรอยดำจากสิวปนกันไปหมด ทำให้ก้นไม่สวย”
รักษาสิวและเลี่ยงกางเกงอับ บันไดสู่บั้นท้ายเนี้ยบนิ้ง !
“วิธีการรักษาก้นลายจากสิวและจากผด ผื่นแตกต่างกันไป อย่างเช่น หากเกิดจากสิว เราต้องดูว่า มันเป็นสิวจริง หรือสิวผด หรือรูขุมขนอักเสบ ต้องแยกกันไป เพราะบางคนเป็นสิวจริง เหมือนกับสิวที่เกิดบนใบหน้า แบบนั้นวิธีรักษาก็จะเหมือนการรักษาสิวที่ใบหน้า แต่บางคนอาจเป็นลักษณะของผดร้อน เนื่องมาจากใส่กางเกงที่ระบายอากาศไม่ดี ตอนที่ออกกำลังกายแล้วก็เกิดเป็นผดร้อน เหมือนเวลาที่เด็กๆ มีผดร้อน หรืออาจจะเป็นรูขุมขนอักเสบ คือ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเหล่านี้ต้องให้แพทย์วินิจฉัย เพื่อที่จะแยกโรค เพราะการรักษาจะต่างกันเล็กน้อย
ดังนั้นการรักษาจะต้องรักษาสิวหรือผด ผื่นเสียก่อน หลังจากนั้นก็ดูเรื่องของรอยดำอีกที ซึ่งวิธีการรักษารอยดำไม่ต่างจากรอยดำบนใบหน้า คือ ใช้ยาในกลุ่ม ต้านการสร้างเม็ดสี หรือการใช้วิตามิน เช่น วิตามินซี (Vitamin C) ที่ช่วยลดรอยด่างดำ รวมไปถึงการใช้ กรดผลไม้ ทาเพื่อให้ผิวผลัดเซลล์ผิวเร็วขึ้น หรือใช้พวกเลเซอร์ไอพีแอล (IPL) เหมือน เวลาเรายิงเลเซอร์แก้ปัญหารอยดำของสิวบนใบหน้า ซึ่งนำเลเซอร์นี้มาใช้กับผิวบริเวณก้นได้เหมือนกัน” คุณหมอสาวอธิบายอธิบายถึงแนวทางการรักษาอาการก้นลาย ที่เกิดจากสิวและผดผื่น

ก้นแตกลายเพราะโตเร็ว รักษายาก! ต้องพึ่งพิงเลเซอร์


ส่วนการรักษาก้นลายอันเนื่องมาจากรอย แตก เพราะร่างกายเติบโตเร็วนั้น แพทย์สาวแห่งโรงพยาบาลสมิติเวช อธิบายตามตรงว่า รักษาได้ค่อนข้างยาก หากอยากบั้นท้ายนวลเนียนจริงๆ คงต้องพึ่งเลเซอร์ค่ะ
“ในส่วนของก้นลายที่เกิดจากรอยแตกลาย จะรักษาได้ยากนิดนึง เพราะว่ารอยแตกลาย มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีที่ผิวหนัง แต่มันเป็นเรื่องของคอลลาเจน (Collagen) ใต้ผิวหนัง มีการฉีกขาดจนทำให้เกิดเป็นเหมือนลักษณะผิวไม่เรียบ คือไม่ใช่แค่ว่ามันดำอย่างเดียว หรือว่าแดงอย่างเดียว ดังนั้นจึงรักษายากกว่า อาจจะต้องใช้พวกเลเซอร์กลุ่มผลัดเซลล์ผิวแบบแยกส่วน ซึ่งจะได้ผลดีพอสมควร”
วิธีบรรเทาป้องกันอาการก้นแตกลาย

“สมมุติว่าเราเป็นคนมีสิวที่ก้นง่าย ก็ไม่ควรใช้พวกโลชั่นที่มันมีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันมากขึ้น หรือบางคนชอบขัดผิว พวกนี้ทำมากไปก็ไม่ดี เช่นการใช้บอดี้สครับ (Body Scrub) ขัด รุนแรงมากๆ เช่นนี้ อาจเป็นการไปกระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง หรือกระตุ้นให้เกิดสิวด้วยซ้ำ และการที่เราออกกำลังกาย แล้วใส่กางเกงที่อับไม่มีการระบายอากาศ ก็อาจจะทำให้เกิดผื่นเล็กๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายสิวได้เหมือนกัน
ส่วนการเลี่ยงรอยแตก คุณหมอธิดากานต์ยอมรับว่า
“ป้องกันยากค่ะ เพราะหนึ่ง-รอยแตกดังกล่าว เกิดขึ้นตอนร่างกายเราเติบโตในช่วงวัยรุ่น บางคนจะโตไว ร่างกายขยายไว และเกิดรอยแตกลายได้ ซึ่งป้องกันยาก เนื่องจากในช่วงวัยรุ่นเราจะไม่ให้ร่างกายเติบโตก็ไม ่ได้ ดังนั้นอาจจะทำได้แค่ ในช่วงที่กำลังโต พยายามทาโลชั่นเพื่อให้ผิวไม่แห้ง ซึ่งอาจจะช่วยได้ระดับหนึ่ง สอง-ในกรณีผู้ใหญ่ ต้องควบคุมน้ำหนัก อย่าให้น้ำหนักขึ้นเร็ว ลงเร็ว เพราะการที่อยู่ๆ น้ำหนักขึ้นเร็วมากๆ ตรงนี้แหละที่ทำให้เกิดรอยแตกลายขึ้น”
และสำหรับสาวก้นลายแต่กระเป๋าหนัก ที่มักปลีกเวลาเข้าสปา (Spa) หวังคืนความเนียนใสให้บั้นท้าย คุณหมอบอกว่า สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่งค่ะ
“การเข้าสปาก็ช่วยได้ในแง่ที่ว่าทำ ให้ผิวเนียนขึ้น เพราะเทคนิคการนวดครีม หลักการก็คือ การพยายามทำให้ครีมเข้าสู่ผิวมากขึ้น เพราะปัญหาที่ต้องพบคือ เวลาที่เราทาครีมเข้าไป มันต้องผ่านชั้นผิวหนังหลายชั้น การที่ส่วนประกอบดีๆ ในครีมจะเข้าไปถึงชั้นคอลลาเจนจริงๆ ไม่รู้เท่าไหร่ ทาไปสิบ..อาจจะเข้าไปถึงชั้นคอลลาเจนแค่สอง
ดังนั้นเทคนิคของการทำสปา ไม่ว่าจะเป็นการนวดหรือการห่อตัวที่เขาใช้กัน หลักการคือ ต้องการให้ครีมเข้าสู่ผิว ยิ่งเข้าสู่ผิวเยอะ มันก็เห็นผลเยอะเท่านั้นเอง” คุณหมอธิดากานต์ให้ความรู้
*ต้องรู้ปิดท้าย: หญิงตั้งครรภ์เตรียมรับภาวะก้นลาย+ท้องลาย

คุณหมอคนสวยบอกด้วยว่า จะพบสภาวะก้นลายและหน้าท้องลายง่ายขึ้นกับกลุ่มสตรีห ลังตั้งครรภ์ อันเนื่องมาจากฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลงระหว่างตั้งค รรภ์ค่ะ
“เพราะการตั้งครรภ์ ร่างกายจะขยายทุกส่วน และที่สำคัญคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen Hormone) หรือฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งมีมากช่วงตั้งครรภ์ ฮอร์โมนตัวนี้มีคุณสมบัติข้อหนึ่งคือ ทำให้คอลลาเจนในร่างกายของเราอ่อนแอลง
เมื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนังอ่อนแอลง มันก็จะทำให้เกิดการฉีกขาดได้มากขึ้น และพอร่างกายขยายมันก็ฉีกขาดจนเกิดรอยแตกตามมา ซึ่งตรงนี้มันยับยั้งไม่ได้ เพราะปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนเยอะตามธรรมชาติของการตั ้งครรภ์ เราอาจจะทำได้แค่ดูแลให้น้ำหนักตัวขึ้นแค่ตามเกณฑ์ เช่น แพทย์แนะให้ขึ้น 12 กิโลกรัม แต่ดันขึ้นไปถึง 22 กิโลกรัม แบบนี้ร่างกายจะมีส่วนเกินเยอะ ก็จะเกิดรอยแตกลายง่าย
ส่วนโลชั่นที่ทาลดการแตกลาย นั้น จริงๆ แล้ว ยังไม่มีโลชั่นตัวไหนที่พิสูจน์ ว่าสามารถป้องกันรอยแตกได้ 100% เพียงแต่เชื่อกันว่า การใช้โลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวจะทำให้การฉีกข าดของคอลลาเจนน้อยลง รอยแตกลายน้อยลง ถ้าผิวชุ่มชื้นขึ้น ก็เปรียบได้เหมือนกระดาษที่เปียก เมื่อเปียกจะเหนียวฉีกยาก ถ้าแห้ง ฉีกปุ๊บมันก็ขาด”

สูดไออุ่นหัวหอม ไล่หวัด-ลดน้ำมูก

|0 ความคิดเห็น
สูดไออุ่นหัวหอม ไล่หวัด-ลดน้ำมูก

อาการหวัด แม้จะเป็นง่าย แต่ก็หายช้า แถมช่วงที่มีน้ำมูกยังทำให้รู้สึกรำคาญ ถ้าน้ำมูกข้นเหนียวก็จะคัดจมูก หายใจไม่สะดวก แต่ถ้าน้ำมูกใส จ่อจะรอไหลออกมาให้คอยซับคอยสูด ทำให้เสียบุคลิก

‘สามัญประจำบ้าน’ เตรียมวิธีบรรเทาอาการหวัด ลดน้ำมูก ให้จมูกและลำคอรู้สึกโล่งหายใจได้สะดวกโดยไม่ต้องพึ่ งยาแต่เพียงอย่างเดียว วิธีนี้ลงทุนน้อย ไม่ยุ่งยาก และตัวช่วยที่นำมาใช้คือ ‘หัวหอม’ ที่มีกลิ่นฉุนนั่นเอง

หัวหอม อุดมด้วย เบตาแคโรทีน กรดโฟลิก ฟลาโวนอยด์เควอเซทิน แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน และซีลีเนียม ไม่ว่าเราจะนำมารับประทานหรือเพียงแค่ใช้ประโยชน์จาก กลิ่น สารอาหารเหล่านี้ก็มีสรรพคุณเด่น คือ ช่วยแก้หวัด

สำหรับวิธีแก้หวัด ลดน้ำมูก ด้วยหัวหอมนั้น ให้นำหัวหอมขนาดกำลังดีลอกเปลือกแล้วทุบพอแหลก ใส่ลงไปในแก้วหรือชามที่ใส่น้ำร้อนรอไว้ จากนั้นนำผ้าขาวบางหรือผ้าเนื้อบางที่พอหาได้ปิดหุ้ม ที่ปากแก้วหรือชาม วางไว้ใกล้ตัวในตำแหน่งที่ไอของความร้อนลอยเข้าจมูกไ ด้ ในช่วงที่น้ำยังมีอุณหภูมิร้อนจะมีไอน้ำที่ผสมกับกลิ ่นของหัวหอมลอยขึ้นมา ให้พยายามสูดไอนั้นเข้าไปจะช่วยลดน้ำมูก บรรเทาอาการหวัดได้ ทั้งนี้สามารถใช้ได้ทั้งหอมแดงและหอมหัวใหญ่ แต่หอมหัวใหญ่จะให้กลิ่นที่ดีกว่า.

รอยย่นบนใบหน้าบ่งชี้ภาวะกระดูกพรุน

|0 ความคิดเห็น
รอยย่นบนใบหน้าบ่งชี้ภาวะกระดูกพรุน


รอยย่นบนใบหน้าบ่งชี้ภาวะกระดูกพรุน (ไทยโพสต์)

เสียง ร้องกา ๆ หรือรอยตีนกาบนใบหน้าของสาว ๆ นั้น ไม่ได้บ่งบอกแค่สังขารที่กำลังร่วงโรยเข้าสู่ภาวะสูง วัยเท่านั้น แต่ยังส่งสัญญาณถึงปัญหาสุขภาพของคุณผู้หญิงทั้งหลาย ด้วย

ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์พบว่า ผู้หญิงที่มีผิวหนังเหี่ยวย่นมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพร ุน ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดภาวะกระดูกหัก หรือกระดูกแตกเมื่อมีอายุมากขึ้น แต่ข่าวดีคือ ข้อค้นพบนี้ช่วยให้การวินิจฉัยโรคกระดูกพรุนทำได้ง่า ยขึ้น เพียงแค่ดูที่รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า

นัก วิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล ในสหรัฐฯ ได้ศึกษาผู้หญิง 114 คนในวัย 40 ปลาย ๆ และ 50 ต้น ๆ ซึ่งเพิ่งหมดประจำเดือน ยกเว้นพวกที่ใช้สารโบท็อกซ์หรือการศัลยกรรมที่ช่วยให ้ผิวหน้าราบเรียบ

จากนั้นนักวิจัยได้นับรอยย่นตามใบหน้าและลำคอ 11 จุด และวัดความลึกของรอยเหี่ยวย่น รวมทั้งดูความเต่งตึงของผิวหนังที่หน้าผากและแก้ม แล้วใช้เอกซเรย์วัดความหนาแน่นของมวลกระดูก
พบว่า คนที่มีผิวหนังเหี่ยวย่นที่สุดมีแนวโน้มที่จะมีกระดู กเปราะที่สุด ซึ่งไม่ได้ขึ้นกับอายุ

ลุบนา พาล ผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนเพศ รายงานต่อสมาคมโรคต่อมไร้ท่อที่เมืองบอสตัน ว่า "เรา พบว่าผิวหนังที่เหี่ยวย่นลึกมีความสัมพันธ์กับภาวะกร ะดูกมีความหนาแน่นต่ำ คนที่มีผิวเหี่ยวย่นที่สุดจะมีมวลกระดูกน้อยที่สุด ความสัมพันธ์นี้ไม่เกี่ยวกับอายุหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อมวลกระดูก"

เธอบอกว่า แม้ยังไม่รู้แน่ชัดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกระด ูกกับผิวหนัง แต่ทั้งสองอย่างนี้มีสิ่งหนึ่งร่วมกันคือ คอลลาเจน "เมื่อ เรามีอายุมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงของคอลลาเจนมีความสัมพันธ์กับการเปลี ่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น ผิวหนังเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น คอลลาเจนยังทำให้ปริมาณและคุณภาพของกระดูกอ่อนด้อยลง ด้วย"

แพทย์หญิงพาลยังบอกด้วยว่า ข้อค้นพบนี้อาจช่วยให้หมอสามารถระบุความเสี่ยงต่อภาว ะกระดูกแตกในผู้หญิงวัย หมดประจำเดือนได้ โดยดูที่ผิวหน้า ไม่ต้องอาศัยการตรวจซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ภาวะกระดูกพรุนมักพบในผู้สูงอายุสตรีมากกว่าบุรุษ เสี่ยงต่อปัญหากระดูกข้อมือ สันหลัง หรือสะโพกแตกร้าว แต่ละปีมีผู้สูงวัยล้มป่วยเพราะกระดูกแตกนับแสนราย การวินิจฉัยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแพง ๆ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนนับล้าน

งาน วิจัยก่อนหน้านี้พบว่า ภาวะผิวหนังเหี่ยวย่นจะเป็นไปตามวัย คนในวัย 20 จะเกิดริ้วรอยราว 56% เมื่อมีอายุได้ 28 ปี และคนในวัย 40 จะมีริ้วรอยราว 73% เมื่อมีอายุได้ 48 ปี แต่หลังจากวัยล่วงเลยถึง 60 หรือ 70 ปีแล้ว ริ้วรอยใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นน้อย
__________________

กินช็อกโกแลตอย่างไร ไม่ให้เสียแผนไดเอ็ต

|0 ความคิดเห็น
กินช็อกโกแลตอย่างไร ไม่ให้เสียแผนไดเอ็ต



ช็อกโกแลต คือของหวานสุดยอดปรารถนาของสาว ๆ และก็เป็นธรรมดาที่คุณจะโหยหาช็อกโกแลตแม้กระทั่งในช ่วงไดเอ็ต นี่คือวิธีที่คุณพอจะดื่มด่ำกับช็อกโกแลตได้บ้าง โดยไม่เสียแผนไดเอ็ต
ลองดาร์กช็อกโกแลต

หรือช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้เข้มข้นแทนช็อกโกแ ลตนมที่มีความหวานมากกว่า และยังมีแคลอรีมากกว่าด้วย

พยายามกินแต่ช็อกโกแลตที่ไม่ใช่เค้กหรือขนมที่มีช็อกโกแลตเป็นส่วนประกอบร่วมกับส่วนผสมแ คลอรีสูงอื่น ๆ เช่น ครีม เนย น้ำตาล

อย่าอบขนมจากช็อกโกแลตเองในบ้านแน่ล่ะ ถ้าคุณมีช็อกโกแลตเตรียมพร้อมไว้ขนาดนั้น โอกาสที่คุณจะสูญเสียการควบคุมตัวเองและหักห้ามใจย่อ มสูงขึ้นด้วย

อย่าลืมว่าชิ้นเดียวก็พอไม่ว่าจะเป็นคัพเค้กช็อกโก หรือช็อกโกแลตบาร์ก็ตาม อย่าเลือกกินขนาดคิงไซส์ล่ะ

เมื่ออยากกินช็อกโกแลตขึ้นมาจริง ๆ
หักช็อกโกแลตหนึ่งแผ่น หรือดื่มโกโก้แทน คุณอาจเก็บช็อกโกแลตไว้ที่ด้านข้างฝาตู้เย็นก็ได้ แล้วค่อยหยิบมากินเมื่อคุณอยากกินจริง ๆ เท่านั้น

ปลาย่างและปลาอบดีต่อหัวใจ

|0 ความคิดเห็น
ปลาย่างและปลาอบดีต่อหัวใจ





ผลการวิจัยเสนอแนะให้เราเลือกรับประทานปลาย่างและปลา อบ แทนที่จะทานปลาทอดกรอบที่ส่งผลเสียต่อหัวใจ ถ้าคุณกำลังคิดเมนูสำหรับอาหารเย็นของวันนี้อยู่ว่าจ ะทำอะไรดี ก็ลองอ่านผลการวิจัยนี้ดูก่อน เพราะผลวิจัยระบุเอาไว้ว่า การรับประทานปลาย่างและปลาอบสัปดาห์ละ 5 ครั้ง จะช่วยลดโอกาสในการเกิดหัวใจล้มเหลวได้มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใครที่ยังนิยมชมชอบการรับประทานปลาทอดอยู่นั้น ข่าวร้ายก็คือ การรับประทานปลาทอดกรอบเพียงแค่สัปดาห์ละครั้ง ก็มากพอที่จะไปเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดหัวใจล้มเหล วได้ถึง 48 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวการศึกษาครั้งนี้ทำขึ้นในสหรัฐอเมริกา และมีการเปิดเผยผลการศึกษาในวันที่ 24 พฤษภาคม โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับการรับประทานปลาชนิดต่างๆ ว่ามีผลแตกต่างกันอย่างไร โดยชนิดของปลาที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่ควรรับประทานก็ คือปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาทะเล ดีกว่าที่จะเลือกรับประทานปลากระพง ปลาค็อด ปลาตาเดียว และปลาทูน่า โดยที่ปลาที่มีสีเข้มกว่าจะมีกรดไขมันโอเมก้า-3 มากกว่า และมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อหัวใจมากกว่าปลาประเภท อื่นเช่นกัน


ในการวิจัยที่ใช้เวลาถึง 10 ปีนี้ นักวิจัยจาก Northwestern University Feinberg School of Medicine ในชิคาโก เก็บข้อมูลจากผู้หญิงที่อยู่ในวัยหลังหมดประจำเดือน 84,493 คน


ส่วนการวิจัยที่ผ่านมาก็เคยมีการพบความเกี่ยวข้องระห ว่างกรดไขมันโอเมก้า-3 ในปลา และการช่วยลดอาการอักเสบและช่วยทำให้ความดันโลหิตดีข ึ้น และการวิจัยก่อนหน้านี้ก็ยังเคยระบุอาไว้ว่าปลาทอดจะ เพิ่มกรดไขมันทรานส์ใน อาหาร ซึ่งก็จะนำไปสู่การเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใ จนั่นเอง
__________________

อันตราย...จากอุจจาระตกค้าง

|0 ความคิดเห็น
อันตราย...จากอุจจาระตกค้าง



• ทราบหรือไม่ว่า...
หากเราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด กินอาหารที่มีกากใยน้อย มีพยาธิหรือ เชื้อรา ระบบดูดซึมเสีย ไม่ ถ่ายอุจจาระตอนเช้าระหว่างเวลา 05.00-07.00 น. ลำไส้จะบีบให้อุจจาระขึ้นไปข้างบน เวลาถ่ายจะถ่ายไม่หมด อุจจาระที่ค้างก็จะเกาะผนังลำไส้ พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่าก็จะแซงหน้าไปก่อน แต่ก็ไม่สามารถดันพวก ที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งไว้นี่ เมื่อเกาะติดแน่นไปเรื่อยๆ อุจจาระตกค้างจะไปทับเส้นเลือด ต่างๆ ในกระเพาะและกดทับกระดูกบริเวณหลัง ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา เช่นท้องอืด ปวดหลัง ปวด ขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไมเกรน เป็นต้น

นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวช ศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า เราสามารถตรวจสัญญาณอุจจาระค้างในลำไส้ได้เองง่ายๆ
โดย การนอนหงายแล้วเอามือคลำท้องด้านซ้ายล่าง เลยสะดือทางซ้ายไปหน่อย แล้วเอานิ้วทั้ง 5 ลองกดดูจนลึกและเลื่อนไปมา หากมีค้างอยู่จะคลำได้เป็น แท่งยาวๆ อยู่ตามรูปลักษณ์ของลำไส้ (สำหรับคนผอมอาจคลำง่ายหน่อย แต่สำหรับคนมีพุง แนะนำให้ แขม่วพุงช่วยแล้วค่อยคลำจะได้ผลชัดขึ้น)
• กลุ่มคนที่มักมีปัญหาอุจจาระค้าง
1. เด็กเล็กที่ให้กินนมแล้วนอนเลย ไม่พาอุ้มพาดบ่าลูบหลัง หรือไม่พาขยับตัวกลิ้งไปมาสักเล็กน้อยให้ลำ ไส้ได้บีบตัวบ้าง

ใน เด็กที่อุจจาระแข็งมาก อาจสามารถบาดรูทวารจนเกิดแผลได้ ทำให้ครั้งต่อไปเด็กไม่อยากถ่ายอีกเพราะ กลัวเจ็บ เมื่อยิ่งกลั้น อุจจาระก็จะยิ่งแข็งค้างไปเรื่อยๆ

2. คนที่ผ่าตัดบ่อย จะมีพังผืดไปรัดลำไส้ข้างใน ทำให้บีบตัวได้ไม่ดี อาจมีอุจจาระค้างอยู่ตามซอกต่างๆ จนบางคนกลายเป็นลำไส้อุดตันไปเลยก็มี

3. ผู้สูงอายุและคนไข้นอนโรงพยาบาล เนื่องจากไม่ค่อยได้ขยับตัวลุกเดิน

4. คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือมีเหตุให้ต้องกลั้นอุ จจาระบ่อยๆ โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศที่วันๆ นั่งแหมะอยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์

5. คนที่มีลำไส้ยาว เพราะยิ่งยาวยิ่งสามารถเก็บอุจจาระไว้ได้นาน สังเกตว่าบางคนกินผักเยอะแต่ถ่ายแค่ สัปดาห์ละครั้งสองครั้งเท่านั้น

Try This! : เคล็ดลับ ‘อึให้ดี ไม่มีตกค้าง’
อย่าอั้นอุจจาระตอนเช้า เพราะถ้าเลยช่วงเช้าไปแล้ว กว่าร่างกายจะส่งสัญญาณให้ปวดอีกอาจจะนานจน ผิดเวลา

รอจังหวะขณะอุจจาระ ถ้าไม่ปวดอย่าแบ่ง ให้ลองสังเกตว่าจะมีการปวดเป็นช่วงๆ และก็คลายก่อนที่จะ กลับมาปวดใหม่ นั่นเป็นเพราะลำไส้บีบตัวเป็นลูกคลื่นเหมือนงูเลื้อย ถ้าเลื้อยมาตรงที่มีอุจจาระพอดีก็จะ ปวดขึ้นมา ดังนั้นหากเบ่งตอนไม่ปวดจะเหมือนเป็นการแกล้งลำไส้ให ้เกิดแรงดันขึ้นมาโดย ใช่เหตุ เป็นผล ให้ลำไส้เกิดโป่งพองขึ้นมา ได้ริดสีดวงทวารเป็นของแถม

นวดลำไส้ ถ้าในเด็กให้นวดรอบสะดือ ในผู้ใหญ่ให้นวดตรงท้อง ด้านล่างซ้ายเลยสะดือไป นวดเบาๆ ไป มาแล้วทิ้งไว้สักพักจะรู้สึกปวดท้องอยากถ่าย

เอามือกดท้องด้านล่างซ้ายขณะถ่าย หรือจะลุกขึ้นนั่งยองเอาหน้าขาเป็นตัวกดไล่อุจจาระออ กมา เพราะที่ จริงแล้ว การถ่ายตามธรรมชาติของคนคือ ‘นั่งยอง’ เพราะจะได้มีแรงกดจากหน้าขาด้วย การนำการนั่งถ่าย แบบโถเข้ามา ทำให้เราเป็นทั้งริดสีดวงและท้องผูกมากขึ้น

ลุกขึ้นเดินไปมาจะทำให้ลำไส้บีบตัวได้ดี สักพักลำไส้จะบีบรีดเอา ‘อุจจาระท้ายขบวน’ ที่เหมือนออกมาแล้ว เราจะรู้สึกปวดอุจจาระอีกที ไม่ว่าใครก็ตาม หากมีความถี่ในการถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ถือว่า ‘ท้อง ผูก’ นะคะ
__________________

สูตรน้ำสลัดลดความอ้วน

|0 ความคิดเห็น
 สูตรน้ำสลัดลดความอ้วน



คุณละมัย ฉันทอุไร จาก จ.สงขลา เขียนจดหมายมาเล่าให้ฟังว่า "ดิฉันได้คิดสูตรน้ำสลัดขึ้นมาเอง เหมาะกับคนที่มีไขมันสูง ทำได้ง่ายๆ
อร่อยด้วย เครื่องปรุงมีซีอิ๊วขาว น้ำผึ้งรวง ฟักทองนึ่ง งาดำป่น พริกไทยป่น น้ำมะนาว น้ำมันข้าวโพด(นิดหน่อย) นมข้น(นิดหน่อย)

วิธีทำ ดีแล้วชิมรสตามต้องการ เก็บไว้ในตู้เย็น ทานกับผักต่างๆ ได้ 2-3 วัน ข้อควรระวังน้ำมะนาวอย่าใส่มากนัก ชิมดูก่อฟักทองนึ่งใช้แต่เนื้อ
นำเครื่องปรุงทั้งหมดรวมกัน ปั่นด้วยเครื่องปั่นประมาณ 3 นาที เข้ากันนแล้วค่อยเติม และถ้าไม่มีน้ำมันข้าวโพด
จะใช้น้ำมันองุ่นก็ได้ แต่ไม่ควรใช้มากเพราะเป็นน้ำสลัดเพื่อลดไขมัน"

ต้องขอขอบคุณ "คุณละมัย" เป็นที่สุด เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านที่เข้าขั้น "อ้วน" และอยากหุ่นดี คงจะนำสูตรนี้ไปลองทำดู
การที่ผู้หญิงรักสวยรักงามอยากผอมเหมือนนางแบบก็ทำให้ธุรกิจพวกนี้เฟื่อง โดยเฉพาะบรรดาสถานเสริมความงามต่างๆ
คอร์สหนึ่งเป็นพันเป็นหมื่นบางคอร์สเหยียบแสน ซึ่งก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง หลายแห่งใช้ดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์

แต่เท่าที่สอบถามผู้รู้และคุณหมอต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าวิธีที่ดีที่สุดที่ไม่ต้องไปเสียเงินมากมายก่ายกอง คือต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ
รับประทานอาหารให้พอดี อย่ามากเกินความต้องการของร่างกาย และเลือกอาหารที่ให้แคลอรี่ต่ำ อย่าทานของหวานของจุกจิก และอย่าไปทานยาลดความอ้วนเด็ดขาด

ท่านใดมีข้อมูลมีสูตรหรือมีคำแนะนำดีๆ ช่วยเขียนหรือเมล์มาบอกกล่าวกันบ้าง และทางเราจะจัดหาของสมนาคุณที่ท่านจะใช้ประโยชน์ได้ไว้ตอบแทน
ช่วงปีนี้มีโอกาสไปงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายครั้ง สังเกตได้ว่าบริษัทส่วนใหญ่ที่จ้างบริษัทประชาสัมพันธ์มาทำพี.อาร์.ให้มักใช้สถานที่ตามร้านกาแฟใหญ่ๆ
ในอาคารชื่อดังกลางใจเมือง หรือบางแห่งก็จัดในห้างสรรพสินค้าเลย สอบถามดูทางบริษัทที่รับทำพี.อาร์.บอกเป็นการประหยัดงบฯ และให้บรรยากาศที่เป็นกันเอง

ซึ่งถ้าไปจัดที่โรงแรมเหมือนแต่ก่อนราคาค่าห้องและค่าบริการอื่นๆ แพงมากกว่านี้ แถมพอหมดเวลาก็ต้องรีบออกเพราะจะมีคนมาใช้ห้องต่อเท่าที่จัดมาปรากฏว่า
ทั้งนักข่าวและผู้ให้ข่าวแฮปปี้กันเป็นแถวๆ เพราะเดี๋ยวนี้ร้านกาแฟเขาพัฒนาไปมาก มีมุมเก๋ๆ และยังมีอาหารว่างให้เลือกมากมาย เรียกว่าเป็นเทรนด์ใหม่ของยุคนี้


นิสัยต้องห้ามสำหรับสาวรักสวย

|0 ความคิดเห็น
นิสัยต้องห้ามสำหรับสาวรักสวย


คุณผู้หญิงทั้งหลายทราบหรือไม่คะ ศัตรูตัวฉกาดของความงาม จริง ๆ แล้ว มัก็คือนิสัยเสีย ๆ บางอย่างของคุณสาว ๆ นั้นเองแหละ มาดูกันเลยดีกว่า ว่านิสัยที่ว่าไม่ดีต่อความงามนั้น มีอะไรบ้าง แล้วคุณมีนิสัยแบบนี้อยู่สักกี่ข้อ

- ชอบขมวดคิ้วและชักสีหน้า : ก็นี่น่ะ เป็นสาเหตุสำคัญของรอยเหี่ยวย่นเลยนะ ถ้าตอนยังเป็นวัยรุ่นทำน่ะ คงไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่ถ้าตอนนี้คุณถึงวัยปลายยี่สิบ หรือย่างเข้าเลยสามแล้วล่ะก็ ลองไปยืนชักสีหน้า หรือขมวดคิ้วหน้ากระจกดูสิ แล้วจะตกใจ

- เลียปาก : นอกจากจะเป็นบุคคลิกที่ดูจะไม่ค่อยงามแล้ว มันยังทำให้ปากเราแห้งด้วย เพราะหลังจากน้ำลายแห้งแล้ว มันจะดูดความชื้นจากริมฝีปาก ลิปมันที่ทาเพื่อปกป้องความชุ่มชื้นและแสงแดด ก็จะหมดไปแล้วน้ำลายยังไปสร้างสารบางอย่างที่ช่วยดุดแสดงแดดเข้าไปมากขึ้นอีกล่ะค่ะ

- ขยี้ตา : ก็ผิวรอบดวงตาน่ะบอบบางมาก การขยี้ตบ่อย ๆ จะทำให้ริ้วรอบก่อตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

- ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้าขวดเดียว : ก็ขวดเดียวมันจะไปพออะไรล่ะคะ ยิ่งถ้าวัน ๆ ต้องเจอมลพิษนานารูปแบบ อีกทั้งกลางวันกลางคืน ก็มีความแตกต่างกัน อย่างน้อยครีมสำหรับกลางวันและกลางคืนก็ไม่ควรจะใช้ขวดเดียวกันแล้วล่ะค่ะ

- กัดเล็บ และปล่อยมือแห้ง : การกัดเล็บเนี่ย นอกจากจะบ่งบอกบุคคลิกภาพที่ไม่มีความมั่นใจแล้ว ยังสกปรก และทำให้เล็บอ่อนแอด้วย เล็บก็จะกุด ๆ ไม่สวย ซึ่งเราไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ มือน่ะ เป็นสิ่งที่สังเกตเห็นกันได้ง่าย แล้ในแต่ละวันน่ะ เราก็โชว์มือบ่อยซะด้วย และใครที่มัวแต่ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าจนลืมผิวมือน่ะ ก็ช่วยให้เวลากับมือสักหน่อยนะคะ เพราะถ้าหน้าเด้งแต่มือเหี่ยวน่ะ มันก็ดูเหมือนแต่งตัวไม่เสร็จน่ะแหละ

- แปรงผมตอนที่ผมเปียก : ถือว่าเป็นการทำร้ายผมอย่างรุนแรงเลยเชียวหละ ใครที่ชอบทำแบบนี้ ขอให้เข้าใจเสียใหม่ว่า ผมแห้งน่ะเปราะบางกว่าผมเปียกตั้ง 30% เลยนะ

- ห่อไหล่ : การห่อไหล่ด้วยการนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะทั้งวี่ทั้งวัน กล้ามเนื้อไหล่และคอจะเกร็งและตึงเครียด ซึ่งอาจจะด่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรังตามมาก็ได้นะ

- บีบสิว : สาว ๆ หลาย ๆ คนเห็นเป็นทนไม่ได้ มันกวนใจจริง ๆ ใครต่อใครก็บ๊อกบอกกันมา อย่าบีบนะ แต่มือมันก็ช่างไม่ฟังเอาเสียเลย ใครมีปัญหานี้ ต้องตระหนักถึงข้อเท็จจริงก่อนว่า ถ้าคุณไปบีบมัน อายุของมันจะยืดยาวอยู่บนหน้าของคุณนานยิ่งขึ้นไปอีก และอาจจะทำให้เป็นแผลเป็นเลยก็ได้ ทางที่ดีเราต้องยับยั้งชั่งใจดีกว่านะ

- เกาแผลยุงกัด : ยุ่งกัด ก็มันคัน ยิ่งเกาก็ยิ่งมัน ยิ่งคันเข้าไปใหญ่ เกาไปเกามาเลือดซิบ และบางทีก็ติดเป็นแผลเป็นไปตลอดชีวิตเลย คิดดูเถอะว่า ถ้าบนตัวคุณมีแต่ลายแผลเกายุงกัดน่ะ มันจะเยินขยาดไหน

เอาหละนิสัยไม่ดีหลายอย่างนี้ เลิกให้เร็วที่สุดก็ยิ่งจะเป็นผลดีต่อความงามของคุณเองนะคะ

แหล่งที่มา » mcot