สองสิ่งที่นิยมทำการ Upgrade สำหรับเครื่องตั้งโต๊ะนั่นคือ หน่วยความจำ และฮาร์ดดิสก์ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่คุณ สามารถทำได้ บน Notebook เช่นเดียวกัน โดยคุณสามารถ เพิ่ม RAM ลงไปให้กับ Notebook เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่คุณก็อย่าลืมว่า คุณจะต้องเลือกหา RAM แบบเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับ Notebook ของคุณด้วย คุณสามารถ เข้าไปยังเว็บไซต์ของผู้ผลิต หน่วยความจำ รายใหญ่อย่าง Kingston ซึ่งจะมีเครื่องมือช่วยหา หน่วยความจำที่เหมาะสม ให้กับ Notebook ของคุณ ในขณะที่ การ Upgrade ฮาร์ดดิสก์นั้น เราขอสงวนไว้สำหรับ ช่างเทคนิคมืออาชีพเท่านั้น เพราะมันต้องการ วิธีการทำงาน ที่ค่อนข้างยุ่งยากกว่าปกติ และเราเอง ก็ไม่อยากให้ ผู้ใช้ต้องมาผจญปัญหา ความยุ่งยากเหล่านี้ ด้วยตนเอง
สิ่งที่คุณต้องเตรียมการ การเริ่มงานในครั้งนี้คือ
1. ตรวจสอบบางอย่าง
ตรวจดูว่า จำนวนหน่วยความจำ บน notebook ของคุณมีเท่าไหร่ ( คลิกขวาที่ My Computer แล้วเลือกที่ Properties จากนั้น ให้ดูที่ General tab ซึ่งจะแสดงรายละเอียด ของระบบขึ้นมา ) จากนั้น ให้คุณเข้าไปยัง เว็บไซต์ของผู้ผลิต Notebook ของคุณ เพื่อตรวจดูว่า คุณมีหนทาง ในการ Upgrade อย่างไรบ้าง
2. เตรียมพร้อมระบบ
เป็นหนทางที่ดี หากคุณจะทำการ update BIOS ของระบบคุณให้เรียบร้อยเสียก่อน ( ให้คุณ เข้าไปยังเว็บไซต์ของผู้ผลิต Notebook ที่คุณใช้งานอยู่ แล้วเข้าไปใช้บริการ Technical Support ) และแม้ว่า การ update BIOS จะไม่ใช่สิ่งจำเป็นยิ่งยวด แต่มันก็จะช่วยให้ คุณมั่นใจได้ว่า ระบบของคุณ จะรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่คุณติดตั้งเพิ่มเข้าไป ได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ แน่ใจว่า ฮาร์ดดิสก์ของคุณ จะไม่มีปัญหาใด ๆ ในระหว่างการทำงานนี้ เราจึงแนะนำให้คุณ ทำการ Scan Disk ( เริ่มต้นที่ Start / Program / Accessories / System Tool และเลือก ScanDisk ) และ ทำการ Defragment ฮาร์ดดิสก์ให้เรียบร้อย ( เริ่มต้นที่ Start / Program / Accessories / System Tool และเลือก Disk Defragment ) ซึ่งทั้งสองวิธีการนี้ นอกจากจะเป็นการตรวจสอบปัญหาฮาร์ดดิสก์ อย่างละเอียดแล้ว มันยังช่วยซ่อมแซม และจัดระเบียบให้ฮาร์ดดิสก์ ทำงานได้ดียิ่งขึ้น สุดท้าย ที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ นั่นคือ ให้คุณ Back up ข้อมูลสำคัญ บนโน๊ตบุกไว้ให้เรียบร้อย เพราะบางที หากเกิดปัญหาขึ้นมา ข้อมูลเหล่านี้ จะได้ไม่มีปัญหา
เริ่มต้นกันเลยครับ
1. ระบุตำแหน่ง RAM ตัวเก่า และติดตั้ง RAM ตัวใหม่
ให้คุณ กำจัดไฟฟ้าสถิตย์ บนตัวคุณออกไปเสียก่อน ( ไฟฟ้าสถิตย์ แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ในโน๊ตบุค เกิดความเสียหายขึ้นได้ ) โดยให้คุณ แตะมือกับ วัตถุโลหะ ที่วางอยู่กับพื้น อาจจะเป็น case โลหะ ของคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะเป็นตู้เย็นก็ได้ และตรวจดูให้แน่ใจว่า คุณได้ถอดปลั๊กต่างๆ ออกจากโน๊ตบุคเรียบร้อยแล้ว ( โน๊ตบุคจะใช้พลังงาน จากแบตเตอรี่เป็นหลัก เพราะฉะนั้น อย่าลืมถอดแบตเตอรี่ออกเสียด้วย ) จากนั้น ให้คุณตรวจหาตำแหน่งของ RAM โดยให้คุณ หงายด้านล่างของโน๊ตบุคชึ้นมา และใช้ไขควง ขันน็อตตามมุมต่างๆ เพื่อเปิดฝาครอบด้านล่างเครื่องขึ้นมา ( โน๊ตบุคส่วนใหญ่ จะมีฝาปิดเฉพาะตรงส่วนที่ติดตั้ง RAM โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณ เข้าถึง RAM ได้ง่ายขึ้น และไม่ต้อง เปิดฝาครอบเครื่องทั้งหมด ขึ้นมาให้ยุ่งยาก ) หากคุณไม่แน่ใจ ว่าจะต้องทำอย่างไร ให้คุณลองอ่านคู่มือ ที่มาพร้อมกับโน๊ตบุคของคุณ เพื่อจัดการดังกล่าว เมื่อคุณ ระบุตำแหน่ง และเข้าถึง RAM ตัวเก่าได้แล้ว ก็ให้คุณ ค่อยๆ ดึงเอา RAM ออกมาจากช่องใส่ RAM จากนั้น ก็ทำการติดตั้ง RAM ตัวใหม่ใส่ลงไป ( และเนื่องจากพื้นที่จำกัด ของโน๊ตบุค คุณจึงไม่สามารถ ติดตั้ง RAM เพิ่มเติมได้ นอกจากเสียจาก ถอดตัวเก่าออก และติดตั้งตัวใหม่ เข้าไปแทนที่ ) พยายาม อย่าให้มือไปแตะต้อง ส่วนที่เป็นโลหะ หรือลายวงจร บน RAM แต่ให้จับที่ขอบทั้งสองด้าน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ต่อลายวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อแน่ใจว่า ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ปิดฝาครอบ และใส่ แบตเตอรี่ลงไปตามเดิม ( เพื่อให้ คุณมั่นใจมากขึ้น คุณอาจศึกษา วิธีการติดตั้ง RAM เพิ่มเติม ได้จาก Upgrade Guide : RAM )
2. บูธเครื่อง และตรวจสอบ
เปิดเครื่องโน๊ตบุค และให้คุณสังเกต จำนวน RAM ที่จะแสดงเมื่อครั้ง Start up เครื่องขึ้นมา โดยดูว่า ครบตามจำนวน ที่ติดตั้งลงไปหรือไม่ แต่หากคุณ สังเกตไม่ทัน คุณอาจจะเข้าไปตรวจดูจาก My Computer โดยให้คลิกขวา แล้วเลือก Properties ซึ่งจะแสดงรายละเอียดของระบบขึ้นมา อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น จำนวน RAM ไม่ครบ หรือเครื่องบูทไม่ขึ้น ก็ให้คุณ ตรวจสอบย้อนหลัง การทำงานของคุณ ว่าได้ทำการติดตั้ง RAM ถูกต้องหรือไม่ และดูว่า ขาเชื่อมต่อ เข้าล็อกสนิทดีหรือยัง จากนั้น ก็ให้บูธเครื่องอีกครั้ง
Credit By : Lemononline.com
บทความ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น