วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Forex คืออะไร

Forex คืออะไรForex ย่อมาจาก Foreign Exchange บางครั้งเรียกย่อว่า FX คือ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
Forex Market หรือ ตลาด Forexเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากกว่า US$ 2trillion (2 ล้านล้านดอลลาร์) ต่อวัน เป็นตลาดการเงินที่มีสภาพคล่องสูงมาก ตลาดเปิดทำการซื้อขาย 24 ชั่วโมง ตลอดวันทำการโดยหยุดการซื้อขาย แค่วัน เสาร์-อาทิตย์เท่านั้นการซื้อขายใน ตลาด Forexเป็นการซื้อขายค่าเงิน โดยซื้อเงินสกุลหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็ขายเงินอีกสกุลหนึ่งออกไป หรือเป็นการจับคู่แลกเปลี่ยนซื้อขายค่าสกุลเงินนั่นเอง ตัวอย่างเช่น เงินสกุลยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ(EUR/USD) หรือ เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น (USD/JPY) เป็นต้น

ค่าเงินสกุลต่างๆ ที่มีการแลกเปลี่ยนซื้อขายในตลาด Forex ที่สำคัญ มีดังนี้

Symbolชื่อสกุลเงิน ชื่อเรียก ประเทศตลาด เปิด-ปิด
USDดอลลาร์Buckสหรัฐอเมริกา19.00-03.00
EURยูโรFiberสหภาพยุโรป13.00-21.00
JPYเยนYenญี่ปุ่น06.00-14.00
GBPปอนด์Cableอังกฤษ14.00-22.00
CHFฟรังซ์Swissyสวิสเซอร์แลนด์13.00-21.00
CADดอลลาร์Loonieแคนาดา19.00-03.00
AUDดอลลาร์Aussieออสเตรเลีย05.00-12.00
NZDดอลลาร์Kiwiนิวซีแลนด์-

การที่เราจะซื้อขายใน ตลาด Forex จะต้องเปิดบัญชีกับ Forex Brokerเป็นโบรกเกอร์ทางอินเตอร์เน็ต เราสามารถเทรดออนไลน์ได้ ตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่เช้าวันจันทร์ ถึง คืนวันศุกร์ สำหรับมือใหม่ ยังไม่เคยเทรดเลยแนะนำลองเปิดบัญชีของ Marketiva ดูครับ มีเงินปลอมให้เล่น $20000 (เบิกเป็นเงินจริงไม่ได้ เอาไว้ฝึกเทรด) และมีเงินจริงให้ฟรีอีก $5 ดอลลาร์ หรือ โบรกเกอร์ที่แนะนำ คลิกที่นี่
ตารางเวลาเปิด-ปิดตลาด ของแต่ละโซน (ค่าเงิน)
ตลาดของแต่ละโซนจะเปิด-ปิด คาบเกี่ยวกันตลอดทั้งวัน ทำให้เราสามารถเทรดได้24 ช.ม. แต่ช่วงที่เหมาะแก่การเทรดคือช่วง ตลาดยูโร (EUR) เปิด ถึงหลังตลาดอเมริกา (USD) เปิด 4-5 ชม. คือแถบสีแดงด้านบน ประมาณเวลา 13.00 -24.00 ตามเวลาไทย ปกติจะเป็นช่วงที่ตลาดผันผวนราคามีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าช่วงอื่น
การลงทุนคือความเสี่ยง ยิ่งผลตอบแทนเยอะความเสี่ยง ก็ยิ่งเยอะตามไปด้วย จึงควรศึกษาให้เข้าใจก่อน การลงทุนครับ

1.ศึกษากราฟ รูปแบบราคา อินดิเคเตอร์ เพื่อหาแนวโน้มของราคาและสัญญาณในการเข้าเทรด การหาจังหวะปิดเพื่อทำกำไร เหล่านี้สามารถหาศึกษาได้ตามเว็บต่างๆ ตามลิงค์ด้านขวามือครับ
2. ศึกษาหลักการบริหารเงินในบัญชี และบริหารความเสี่ยง
3. ขยันศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเสมอครับ
การเล่นหุ้นในมาร์เก็ตติวา

ก็คือการเก็งกำไรจากค่าการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรานั่นเอง เช่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในวันนี้ เวลา 08.00 น. ระหว่าง ดอลลาร์/เยนญี่ปุ่น อยู่ที่ = 116.34 (สมมุติ) จากนั้นอีก 3 ชั่วโมงถัดไป ค่ามันอาจเปลี่ยนไปที่ =116.54 และจากนั้นอีก 1 ช.ม. ค่ามันลดลงมาอยู่ที่ 116.14 เห็นมั๊ยครับ ว่าเราจะได้กำไรหรือขาดทุนกันจากตรงใหน ถ้ายังงงๆอยู่ก็ค่อยๆอ่านต่อไปแล้วคุณจะเข้าใจ
การสร้างกำไรจาก Marketiva
1.กำไรจากการเข้าซื้อ (Buy) เมื่อกราฟในค่าเงินมันพุ่งขึ้น นั่นคือ ถ้าคุณเข้าซื้อไว้แล้วหลังจากนั้นกราฟมันยิ่งพุ่งสูงขึ้นเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งได้กำไรมากขึ้น ( แต่กลับกัน ถ้ากราฟมันพุ่งลง คุณก็ขาดทุน)
2. กำไรจากการขายออก ( Sell ) เมื่อกราฟในค่าเงินมันพุ่งลง นั่นคือ ถ้าคุณเข้าซื้อไว้แล้วหลังจากนั้นกราฟมันยิ่งพุ่งต่ำลงเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งได้กำไรมากขึ้น ( แต่กลับกัน ถ้ากราฟมันพุ่งสูงขึ้น คุณก็ขาดทุน)

แค่นี้เองหลักในการเล่นไม่มีอะไรมากมายเลย  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องรู้ว่ามันจะขึ้นหรือว่ามันจะลง เท่านี้เองครับ  และแน่นอนในโลกนี้ถ้าทุกคนรู้กันหมดก็คงไม่มีใครจน ที่สำคัญคือ การคาดการณ์ล่วงหน้าที่ใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด และแน่นอนครับ เพียงคุณติดตามทุกการเคลื่อนไหวจากเรา คุณจะได้รับข้อมูลที่ดีที่สุดแน่นอน และสำหรับในกระดานสนทนา ของโปรแกรมซื้อขายหุ้น (Streamster) ก็ยังมีห้องสนทนาของคนไทย คือห้อง Thailand ไว้ให้คุณปรึกษาข้อมูลได้ตลอดเวลา หรือถ้าคุณมีภาษาอังกฤษที่ดีก็สามารถเข้าไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวทางการเล่นได้เลยที่ห้องนานาชาติ คือห้อง Forex ซึ่งจะรวมเอานักเล่นหุ้นจากทั่วโลกมาไว้ที่ห้องนี้ สำหรับแนวทางการเล่นในแต่ละวันคุณสามารถเข้าไปชมได้ที่
ซึ่งข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดจะเป็นข้อมูลนี้ได้คัดเลือกและวิเคราะห์แล้วว่าควรนำเสนอออกมา จึงจะออกสู่สายตาของทุกท่าน ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเข้าเป้า 80-90 % เลยทีเดียว และโปรดจำไว้ว่า ไม่มีใครในโลกนี้ ที่จะบอกคุณได้แน่นอนว่ามันจะเป็นไปอย่างไร  ท้ายที่สุดคือทุกอย่างอยู่ที่การหาข้อมูลและเหตุผล + การตัดสินใจขั้นสุดท้ายของคุณ
การเล่น Marketiva นั้น
ก่อนอื่นเปิดโปรแกรม Streamster ขึ้นมา Log in เข้าไปให้เรียบร้อย จากนั้นมองมาที่ฝั่งซ้ายมือ จะเจอเมนู Forex Rates ปกติมันจะเปิดขึ้นเองอยู่แล้ว ถ้าไม่มีแสดงว่าอยู่หัวข้ออื่น ให้คุณคลิกที่เมนูนี้ จะพบกับตัวเลขต่างๆ สีเขียวสีแดงสีดำ วูบๆวาบๆ นั่นหละอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินในขณะนั้นๆ ตัวหลักๆ ที่ให้จับตาดูคือ
1.EUR/USD เป็นอัตราซื้อขายค่าเงินระหว่าง ยูโร กับ ดอลลาร์สหรัฐ
2.EUR/JPY เป็นอัตราซื้อขายค่าเงินระหว่าง ยูโร กับ เยนญี่ปุ่น
3.USD/JPY เป็นอัตราซื้อขายค่าเงินระหว่าง ดอลลาร์สหรัฐ กับ เยนญี่ปุ่น

ส่วนตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆศึกษากันไป เช่น ดอลลาร์ออสเตเรีย,เงินฟรังซ์,เงินหยวน ,มีหมดแหละครับ และถ้ามือใหม่ยังไม่แนะนำครับบอกตรงๆ มันผันผวนสูง เสี่ยงมากๆ
จากนั้นก็เหลือบมองไปทางฝั่งขวาของจอภาพ ก็จะเจอกับกราฟต่างๆ ในหัวข้อ Charting ซึ่งปกติจะขึ้นหัวข้อโชว์ไว้ 4 กราฟ ถ้าคุณกำลังสนใจอัตราแลกเปลี่ยนตัวใหนก็คลิกที่หัวข้อนี้ไปทีละ Charting จนกว่าจะพบตัวที่คุณต้องการ
แต่ถ้าคลิกจนครบ 4 ชาท แล้วยังไม่เจอก็เปิดขึ้นมาชาร์ทใดชาร์ทหนึ่ง แล้วคลิกขวาเข้าไปตรงที่ว่างๆ กลางชาร์ทนั้นๆ
จากนั้นจะพบกับเมนูย่อยต่างๆ ให้คลิกที่ Instrument แล้วมองหาอัตราแลกเปลี่ยนที่คุณต้องการ อยากให้กราฟโชว์ตัวใหนก็คลิกเอาเลยครับ แต่ละชาร์ท คุณสามารถทำวิธีเดียวกันนี้เพื่อให้หลากหลาย พออยากดูตัวไหนก็ไปคลิกที่หัวข้อ Charting นั้นๆ ได้ทันที

ต่อไปเป็นการทำเงินแล้ว
1.การซื้อ Buy หรือเราเรียกอีกอย่างว่า การเล่นแบบ Long
เป็นการเล่นเมื่อคุณคิดว่ากราฟของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตัวนั้นๆ มันจะพุ่งขึ้นสูงกว่าเดิม เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะเล่นตัวนี้หละ สมมุติว่า USD/JPY ละกัน ให้คุณไปคลิกตรงช่องอัตราแลกเปลี่ยนของ USD/JPY ที่ตัวเลขที่มันปรากฎอยู่ตรงช่อง Offer จากนั้นจะมี

ตารางสี่เหลี่ยมขึ้นมาให้กรอก
- Instrument = หน่วยเงินตราที่คุณซื้อขาย
- Price = ราคาที่คุณตกลงซื้อ
- Duration = เวลาตอนนั้น
- Quantity = จำนวนเงินที่คุณจะใช้ซื้อ /ขาย ( มีหน่วยเป็นเซ็นต์ ถ้าลง 1 เหรียญ ต้อง

กรอก 100 ลง 10 เหรียญ
กรอก 1000 ลง 100 เหรียญ กรอก 10000 เป็นต้น )
- Desk = เลือกว่าจะเล่นเงินจริง หรือเงินปลอม ( Live Trading = เงินจริง ,Virtual Trading=เงินปลอม )
- Exit Stop Loss = จุดที่คุณยอมขาดทุนได้สูงสุด (เช่น ตอนนี้มันอยู่ที่ 116.00 คุณคาดว่ามันจะขึ้นไป 116.35 แต่ถ้ามันเกิดพุ่งลงคุณจะให้มันหยุดที่ใหน ปกติเราจะตั้งไว้ที่ 35  50 จุด ในที่นี้ก็เอาสัก 40 จุด คุณก็ต้องกรอกตัวเลขที่ 115.60 หมายถึงคุณจะให้ขาดทุนได้ไม่เกิน 40 จุดเท่านั้นเอง เป็นการป้องกันการขาดทุนมากเกินความจำเป็น )
- Buy/Sell = เป็นชนิดว่าคุณจะซื้อ / หรือ ขาย (อ่านจากหัวข้อบนๆ นู้น )
- Price Type = ไม่ต้องสนใจ
- Quantity Type =ไม่ต้องสนใจ
- Exit Target = คุณจะปิดการซื้อขายที่เท่าไรดี ( คล้าย Stop Loss) แต่ตัวนี้คือเป้าหมายที่ตั้งไว้ต่างหาก ในที่นี้สมมุติคุณจะเอาที่ + 35 จุด ก็กรอกตัวเลข 116.35 เข้าไป ถ้ากราฟมันวิ่งไปถึงมันก็จะขายให้อัตโนมัติเลย อิๆๆ กำไรๆๆ
- Text = ไม่ต้องสนใจ

2.การขายออก Sell หรือเราเรียกอีกอย่างว่า การเล่นแบบ Short
เป็นการเล่นเมื่อคุณคิดว่ากราฟของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตัวนั้นๆ มันจะพุ่งต่ำลงกว่าเดิม เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะเล่นตัวนี้หละ สมมุติว่า USD/JPY อีกทีละกัน ให้คุณไปคลิกตรงช่องอัตราแลกเปลี่ยนของ USD/JPY ที่ตัวเลขที่มันปรากฎอยู่ตรงช่อง Bid จากนั้นจะมีตารางสี่เหลี่ยมขึ้นมาให้กรอก ก็เหมือนเดิมครับ แต่จุดใหญ่ๆ ที่ต้องตรวจดูก็คือ ช่อง Buy / Sell , ต้องดูให้แน่ว่ามันเป็น Sell ตามที่เราต้องการหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็คลิกปุ่มลูกศรข้างๆ เพื่อเปลี่ยน
สรุป ไม่ว่าจะ Buy หรือ Sell คุณสามารถคลิกได้ทั้ง 2 ช่อง (Bid ,Offer) เพียงแต่มาเปลี่ยนเอาในตารางสี่เหลี่ยมทีหลังก็เท่านั้นเองครับ .. จากนั้นก็นั่งลุ้นกันว่าตัวเลขของคุณมันจะแดงหรือเขียว

สรุปสิ่งที่ควรรู้ + เทคนิคการเล่น
1.Buy หรือ Long คือการเล่นขาขึ้น คลิกตัวเลขที่ช่อง Offer
2.Sell หรือ Short คือการเล่นขาลง คลิกตัวเลขที่ช่อง Bid
* เวลาที่ท่านคลิกเพื่อเข้าทำการเทรด ช่วงที่ท่านกำลังเปลี่ยนข้อมูลในตารางสี่เหลี่ยมอยู่นั้นบางที บางคน มัวแต่มะมุมมะง่าม อยู่นั่น หารู้ไม่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนในตารางมันอาจวิ่งไปอีก 5-6 จุดแล้วก็ได้ ขอบอกว่า พอคุณกรอกข้อมูลในใบออร์เดอร์ (กล่องสี่เหลี่ยมนั่นหละ) เสร็จ ก่อนจะคลิกตกลง ให้ดูว่าค่าเงินในตาราง Forex Rate มันเป็นค่าที่คุณต้องการหรือไม่ ถ้ามันตรงกันกับช่องสี่เหลี่ยม ก็ค่อยกดตกลง ถ้าไม่ตรงกันมันจะเอาอัตรา ณ ปัจจุบันที่คุณกดตกลงแทน มันจะไม่เอาค่าในใบออร์เดอร์นะจ๊ะ เทคนิคง่ายๆ พอตารางสี่เหลี่ยมขึ้นมา ก็เอาเมาท์ วางที่ขอบมันแล้วลากออกมาวางห่างๆ ตารางอัตราแลกเปลี่ยน จากนั้นก็ชำเลืองดูควบกันไปด้วย อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆลอยนวลไปเดี๊ยวจะมาโวยว่าเปิดราคาที่ 1.654 แต่พอกดตกลงไหงมันไปเปิดที่ 1.650 อัตราแลกเปลี่ยนมันวิ่งแทบทุกวินาที ทางที่ดีก็รอให้อัตรามันนิ่งๆ ก่อนก็ ค่อยเข้าไปซื้อขาย นะ ..
3.Exit Stop-Loss เรียกย่อสั้นๆ ว่า Sl. คือ ค่าที่ตั้งไว้ไม่ให้ขาดทุนเกินนี้
4.Exit Target คือ ค่าที่ตั้งไว้ให้ปิดการซื้อขายเมื่อหุ้นขึ้นหรือลงมาถึงจุดนี้ กล่าวคือเป็น เป้าหมายที่คุณต้องการนั่นเอง
5.Pipe คือระยะห่างระหว่างจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง เช่น Pipe ระหว่าง Bid กับ Offer ของ Eur/Usd = 3 นั่นหมายถึง ถ้าคุณเข้าซื้อ หรือขาย หุ้นตัวนี้ ทันทีที่คุณ

รับมา มันจะติดลบทันที 3 จุด คือขาดทุนก่อนแน่นอน 3 จุด ดังนั้น
* ไม่ควรเข้าเล่นหุ้นที่มีค่า Pipe ระหว่าง Bid/Offer มากกว่า 5 จุด ถ้าคุณไม่แน่จริง หุๆ..จะว่าไม่เตือนนะ.. แต่ถ้ามือถึงแล้วก็ลุยตามสบายครับไม่ว่ากัน..!!
6.ระหว่างเล่นหมั่นสังเกตกราฟ หุ้นตัวที่คุณเล่นและตัวอื่นๆ ที่อาจมีผลเกี่ยวเนื่องกัน อย่าลืมว่าเราเล่นค่าเงิน ถ้าค่าเงินตัวหนึ่งเพิ่ม อาจมีผลให้อีกตัวหนึ่งเพิ่มตาม หรือลดลงสวนทางกัน ถ้าคุณจับทางถูก รวยลูกเดียวครับ ขอบอก..!!
7.กราฟแต่ละตัวสามารถปรับระยะเวลาการเคลื่อนไหว และรูปแบบได้ครับ ระยะเวลาคือเริ่มตั้งแต่เร็วสุด 5 นาที 15 ,30 นาทีไปจนถึง เดือน เลยครับ ส่วนรูปแบบก็หลากหลายแต่ที่นิยมสุดก็มีกราฟเส้น,กราฟแท่งเทียน นี่แหละครับ ดูง่ายดี ระหว่างเล่นก็หมั่นตรวจดูทุกช่วงเวลาว่ากราฟมันน่าจะขึ้นหรือลง การเข้าไปปรับระยะเวลาของกราฟให้คลิกขวาที่กราฟนั้นๆ แล้วเลือก Timescale ครับ จากนั้นเลือกช่วงเวลาที่คุณต้องการได้เลย
8.Indicator เป็นเส้นชี้นำภายในกราฟครับ ถ้าไม่ตั้งอะไรปกติจะมีแค่ 2 เส้น แต่เซียนบางคนเขาไปตั้งเพิ่มกัน 3-4 เส้น ก็ว่ากันไปตามสไตล์ใครมัน อันนี้มีบทเรียนให้ศึกษาครับ คนที่จะก้าวเข้าสู่มืออาชีพต้องไปศึกษาดู ดีมากครับเป็นการวิเคราะห์เส้นกราฟต่างๆ ว่ามันขึ้นยังงี้ ตัดกันตรงนั้นตรงนี้ แล้วหุ้นมันจะไปทางใหน ขึ้นหรือลง 9.ระหว่างเล่นหมั่นเข้าไปคุยหรือสังเกตการณ์ในห้องแชทบ่อยๆ เข้าไปคลิกตรงหัวข้อ Discussion มุมขวาของจอ ในนั้นจะมีให้คุยได้หมดทั้งทีมงานช่วยเหลือจากมาร์เก็ตติวา (Support) ที่ให้คำปรึกษาเรื่องปัญหาต่างๆของโปรแกรม คุยได้แบบสดๆ ออนไลน์ทันที หรือจะเข้าไปคุยกับฝรั่งในห้อง Forex เพื่อถามแนวทางกันแบบนาทีต่อนาที แต่ถ้าไปใหนไม่ถูกก็ห้อง Thailand ของเรา คุยไทยพิมพ์ไทยได้เลย ขอเตือน ห้องใหนที่ไม่ใช่ห้องไทย ห้ามไปพิมพ์ไทยในนั้น ให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก มันเป็นกฎ ถ้าฝืนคุณอาจจะโดนแบน การโดนแบนเป็นเรื่องที่แย่ที่สุด คุณอาจไม่ได้เล่นเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ที่สำคัญคือนำเงินออกไม่ได้
10.การเล่น (หรือการเข้าเทรด) ไม่ว่าจะด้วยเงินจริงหรือเงินปลอม ภายใน 4 ชั่วโมง รวมกันห้ามเกิน 10 ครั้ง ( ซึ่งปกติก็ไม่มีใครเทรดกันถี่ขนาดนั้นอยู่แล้ว )มิเช่นนั้นจะโดนแบน เพราะมันจะทำให้ระบบเซิร์ฟเวอร์ทำงานหนัก
11.การเล่นให้สังเกตแนวทางการขึ้นลงจากกราฟ บวกข่าว (Signal) ซิกแนว ต่างๆ ที่คุณได้มา เบื้องต้นให้ตั้งค่าต่างๆ ตามซิกแนวไปก่อน จากนั้นหมั่นสังเกต ตามความเป็นจริง เช่นซิกแนวบอกว่ากราฟจะขึ้นไปที่ 1.265 แต่เราเฝ้ามา 3 ชั่วโมง มันขึ้นๆลงๆ แค่ 1.260 พอดูเส้น Indicator มันเริ่มจะพุ่งหัวลงแล้ว ถ้าตอนนั้นเราเห็นว่ามันได้กำไรพอสมควรแล้วก็ปิดมันซะ ก่อนที่มันจะพุ่งหัวลงไปมากกว่านี้ทำให้ขาดทุนเปล่าๆ ครับ
12.ที่สำคัญหมั่นเข้ามาศึกษาหาความรู้กันในเว็บ
www.e-money4u.is.in.th ของเราบ่อยๆ หรือทุกวันเลยยิ่งดี อิๆๆ
รับรองที่นี่มีแต่ให้คุณครับ ขอเพียงเราชาวไทยมีน้ำใจต่อกัน ถ้าคนไทยไม่รักกัน แล้วใครจะมารักเรา
สนใจสมัครเล่นที่นี่
Marketiva Manual
 การเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ Forex (Foreign Exchange) เป็นชื่อที่ใช้เรียกการซื้อขาย ค่าเงินกันโดยตรง ของตลาดเงินตรา ที่มีมูลค่า $1.4 Trillion (ล้านล้าน) ต่อวัน ตลาด Forex มีมูุลค่าการซื้อขายสูงกว่า ตลาดทางการเงินอื่นๆ รวมกัน ถึง 46 เท่า ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้ Forex is the world’s most liquid market ในอดีตที่ผ่านมา การซื้อขาย แลกเปลี่ยนค่าเงิน ถูกจำกัดไว้เฉพาะแต่ในแวดวงของธนาคาร และ สถาบันการเงิน ขนาดใหญ่ เท่านั้น แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น ทำให้สามารถพัฒนาระบบการเทรดแบบ Online ที่ยอมให้นักลงทุนรายย่อย ได้มีโอกาสเข้ามาทำการซื้อขาย ค่าเงิน กันได้โดยตรงในตลาด Forex โดย Foreign Exchange เทรดได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง การซื้อขาย สามารถทำได้หลายช่องทางทั้งทางโทรศัพท์และทางระบบ Internet ทำให้มันเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่หรือเวลาใดๆ ในอดีตการลงทุนในตลาด Forex ยังจำกัดอยู่ในวงแคบๆ ไม่ค่อยแพร่หลายเท่าที่ควร เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงในการเปิดบัญชีกับทาง Brokers ยกตัวอย่างการเปิดบัญชีกับ
www.forex.com กำหนดการลงทุนขั้นต่ำของ Standard account ไว้ที่ 2,500 $ และ 250 $ สำหรับ Mini account คนที่มีเงินลงทุนน้อยหมดสิทธิ์อย่างแน่นอน จนกระทั่งปี 2005 เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในวงการตลาดเงินของโลก นั่นก็คือ Marketiva นั่นเอง! โดยแจกเงินลงทุนให้ฟรี 5 ดอลลาร์!!About Marketiva
 Marketiva Corporation เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศ
Switzerland หมายเลข Registration number IBC CAP. 291 Reg.  646819 อยู่ภายใต้หน่วยงาน Jurisdiction of Financial Services Commission (FSC) Marketiva เปิดตัวช่วงต้นปี 2005 ที่ผ่านมา ด้วยสโลแกนที่ว่า “Forex ใครๆ ก็เล่นได้” ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำแค่ 1$ ดอลลาร์ ทำให้ตอนนี้ Marketiva กลายเป็นบริษัท Forex ที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ มีคนให้ความสนใจและไปเปิดบัญชีลงทุนกันอย่างมากมาย การสมัครสมาชิก
โดยในขั้นตอนการสมัคร ให้เรากรอกรายละเอียดต่างๆ ให้ตรงกับความเป็นจริง เพราะต้องมีการส่งเอกสารไปยืนยันถึงความมีตัวตนด้วย Marketiva อนุญาติให้ สมัครได้ 1 คน ต่อ 1 account ห้ามสมัครเกิน ถ้าทางเว็บตรวจเจอว่ามีการสมัครหลายๆ account โดย คนๆ เดียวกันก็จะบล็อกไม่ให้ใช้งาน จนกว่าเราจะส่งเอกสารไปยืนยัน ดังนั้นควรทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ ชื่อและนามสกุล กรอกให้ตรงกับในบัตรประชาชนหรือใน Passport ส่วนที่อยูุ่่ก็ให้กรอกตรงกับที่อยูุ่่ในพวกใบเสร็จของ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ทั้งชื่อและที่อยูุ่่รายละเอียดต่างๆ ที่กรอกไปแล้ว เราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองในภายหลัง ถ้าเราต้องการแก้จะต้องทำการส่งข้อความถึง Support ขอแก้ไขข้อมูลและแจ้งเหตุผลในการขอแก้ไขด้วย ฉะนั้นกรอกให้ถูกต้องเวลาเปิด-ปิดตลาด เทียบกับเวลาในประเทศไทย คือ
เปิด 04.00 ของเช้าวันจันทร์ - ปิด 04.00 ของเช้าวันเสาร์ (ตลอด 24 ชม.)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น