ข้อแตกต่างระหว่าง ip camera กับ analog
1 ในเมืองไทยกล้องวงจรปิด ip camera มีราคาสูงมาก เนื่องจากยังไม่เป็นที่แพร่หลายและคนใช้เป็นจำนวนน้อย ส่วนกล้องที่ราคาถูกๆ อย่างตัวละไม่กี่พัน คุณภาพก็ห่วยสมกับราคา ใช้สำหรับบ้านทั่วไปที่สิ้นคิด ยังพอใช้งานได้ซัก 3-4 เดือน ของผมเคยซื้อมาเล่น 4 ตัว เดือนแรกเจ๊ง 1 ตัว เดือนที่ 2 เจ๊งอีกตัว เดือนที่ 4 เจ๊งทุกตัว ส่วนกล้องที่ดีๆ ราคาก็สูงมากมาย ราคาอัดไปที่ 3-4 หมื่นบาทต่อตัว.
2 มันพังได้ง่ายมาก เพราะ กล้อง ip camera ไม่เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งาน outdoor ip camera ส่วนใหญ่เดี้ยงหมดครับ เพราะเกิดจากความร้อนที่มากเกิน หลายๆคนคงเริ่มสงสัย อ้าว…แล้วมันต่างจากกล้อง analog ตรงไหนกัน คำตอบคือ ต่างครับ ต่างกันมาก อธิบายง่ายๆ กล้อง ip camera จริงๆ มันก็คือ กล้อง analog + Video server (เป็นตัวแปลงสัญญาณจาก analog เป็น digital และส่งสัญญาณผ่าน network ได้ เหมือนพวก Switching Hub ที่ส่งสัญญาณผ่าน LAN นั่นเอง) ปัญหาอยู่ที่นี่เองครับ โดยปกติ การจับภาพและการส่งสัญญาณภาพแบบ analog ก็จะมีความร้อนเกิดขึ้นอยู่แล้ว กระบวนการแปลงสัญญาณและการบีบอัด (Compression) ยิ่งมีความร้อนออกมามาก รวมกับสภาพอากาศในประเทศไทย ที่แม้ว่าช่วงนี้จะเย็นขึ้นมาหน่อย ก็เกิดอาการเดี้ยงอย่างสมบูรณ์ครับ กล้อง ip camera จะดับไปเฉยๆ
3 Infra srtucture (Network)ในประเทศไทยไม่ค่อย support (เงินในกระเป๋าเรา) เท่าไหร่ เพราะ application ip ทุกอย่างจะวิ่งบน LAN ทั้งหมด อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เดี้ยง ก็เพราะประหยัดในส่วนนี้นั่นเอง แล้วยี่ห้ออะไรดีล่ะที่เหมาะสมกับกล้อง ip camera ว้าว ..^-^ คำถามสุดคลาสสิกครับ คำตอบคือ Cisco, 3Com ซึ่งถ้าออกแบบโดยใช้ยี่ห้อ ดังกล่าว หน้าหงายครับเพราะราคา switch แต่ละตัว เป็นแสนทั้งนั้น(ต้องใช้รุ่นระดับสูงครับ รุ่นเล็กๆใช้ไม่ได้ใน surveillance application) แล้วถ้าไม่ใช้ล่ะ ปัญหาก็อย่างที่ผมกล่าวบ่อยๆครับ คือใช้ซักพักจะเดี้ยง ^-^ และเสียทีมันจะเสียทั้งหมด
4 ระบบบันทึกสำหรับกล้องวงจรปิดชนิด ip ในแต่ละยี่ห้อไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ ซึ่งเท่ากับผูกมัดเราว่า ถ้าเราต้องการติดตั้งกลองวงจรปิดเพิ่มเติม เราจำเป็นต้องใช้กล้องยี่ห้อนั้นจนวันตาย หรือต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด หรือถ้าสามารถใช้งานร่วมกันได้ก็มีข้อจำกัด ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ แน่นอนครับในโลกนี้ก็มีอยู่หลายยี่ห้อที่พัฒนาระบบซอฟท์แวร์สำหรับบันทึกภาพ จากกล้อง ip camera ขึ้นมา เช่น Milestone, Nice, Genesis, etc.. แต่ราคานั้นสูงลิบลิ่ว เอาเป็นว่าเฉพาะค่าลิขสิทธิ์ต่อกล้อง ก็ปาเข้าไปหลายพัน จนถึงหลักหมื่น สำหรับซอฟท์แวร์ที่แถมมากับกล้องคุณภาพก็สุดแสนจะอนาถา เอาเป็นว่ากลับไปใช้กล้อง Analog ร่วมกับระบบบันทึกชนิด DVR (Digital video recorder) ดีกว่าครับ
5 หากเป็นกล้องที่คุณภาพเดียวกัน ราคากล้อง ip camera ที่มีคุณภาพ ราคาจะสูงกว่าค่อนข้างมาก (ประมาณ 1-2 หมื่น ^-^) อ้าว แล้วทำไมเราจึงซื้อกล้อง ip แบบถูกๆได้ล่ะ (ต่ำกว่าหมื่น) ก็เพราะมันห่วยน่ะสิครับ ลองนึกดูว่าถ้าตอนนี้ท่านติดกล้องห่วยๆของ จีนแดงยี่ห้ออื่นตัวละประมาณ 2,000 บาท แล้วตอนนี้กำลังอยากเปลี่ยนไปใช้กล้อง ip ที่คุณภาพเท่าเดิม เราก็ต้องควักเงินในกระเป๋าประมาณ 12,000 บาท จึงจะได้กล้อง ip ที่มีคุณภาพห่วยทัดเทียมกัน ว้าว…สนมั้ยครับ
6. เมื่อติดตั้งเสร็จสิ้น ในระบบที่ไม่ใหญ่นัก (100 ตัวในอาคารเดียวกันหรือใกล้ๆกัน) ราคาจะสูงกว่าการใช้งานระบบ Analog เกินเท่าตัว
7.ip ยังไม่มีระบบ H.264 ทำให้กินเนื้อที่ HDD ในการบันทึก และระบบไม่สามารถ over write ไฟล์เก่าสุดเพื่อบันทึกของใหม่ลงไป คำนวนกันง่ายๆ 500 GB 4กล้อง อัดตลอดเวลาได้ที่ 7วัน แบบโมชั่น ได้ราวๆ 2-4 สัปดาห์ขึ้นกับการเคลื่อนไหว ในระบบ H.264 แต่ IP บันทึกกินเนื้อที่มากกว่า ถึงเท่าตัว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น