ข้อควรระวังในการวางระบบ กล้องวงจรปิด ip camera
- ระวังในการออกแบบระบบ Network ให้ดี
การเลือกใช้ Core switch ต้องเลือก switch ที่สามารถลองรับอัตราการไหลของข้อมูลทั้งหมดได้ ผมมีวิธีการคำนวณแบบง่ายๆมาแชร์ให้ฟัง (จริงๆ ต้องคำนวณ ละเอียดกว่านี้มาก แต่เอาไว้เป็นไอเดีย ไม่ให้โดนคนขายหลอก) โดยปกติกล้องวงจรปิด ชนิด ip camera จะมีการส่งภาพวีดีโอ ตั้งแต่ 32 kbps – 3 Mbps ซึ่งแล้วแต่คุณภาพของกล้องว่ามีคุณภาพมากขนาดไหน โดยทั่วไปที่คุณภาพเท่ากับ VCD ในการ Compression แบบ Mpeg4, H.264, H.263 จะต้องใช้ Bandwidth ที่ 2 Mbps เพราะฉะนั้น ถ้าในองค์กรเราใช้กล้องทั้งสิ้น 100 ตัว เราจะใช้ Bandwidth ที่ 200*2 = 400 Mbps (การคิดต้องคูณด้วย 2 ไว้เสมอ)เป็นอย่างน้อยตลอด 24 ชั่วโมง
โดยปกติ เราต้องคำนวณ Bandwidth เผื่อระบบอื่นๆด้วย ซึ่งคิดเป็น 10-20% ของระบบกล้อง ip เท่ากับ 200 + 40 = 240 Mbps และการออกแบบต้องมีการคิดเผื่อการขยายเพิ่มเติมในอนาคต ต้องเผื่อไว้ไม่ต่ำกว่าเท่าตัว คือ 440*2 = 880 Mbps และการเลือกใช้ switch ควรเลือกใช้ Mange switch นะครับ
ปัจจุบันกล้อง ip มักจะมีเทคโนโลยี POE (Power over Ethernet) ติดมาด้วยคือสามารถจ่ายไฟให้ตามสาย LAN ได้ ทำให้ประหยัดค่าเดินสายไฟ หรือ สะดวกต่อการสำลองไฟ และหากเราจะใช้ function นี้ switch ของเราก็จำเป็นต้องมีฟังก์ชันนี้ด้วยเช่นกัน แต่ควรระวังเรื่องกำลังส่งของไฟที่ switch สามารถส่งไปให้ด้วยนะครับ
หากเราใช้ ip camera ที่รองรับ POE ก็จะง่ายขึ้นหน่อย คือสามารถสำรองไฟจากแหล่งเดียวกันได้เลยทั้ง switch และ กล้อง แต่ถ้าไม่มีก็ลำบากขึ้นเล็กน้อย แต่จงจำไว้ว่า อย่าให้ระบบ network เดี้ยงโดยเด็ดขาด
- หากต้องใช้กล้องภายนอก ควรใช้กล้อง Analog
อย่าประหยัดกับการต้องจ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อย ในการใช้กล้องวงจรปิด ชนิด Analog และ Video server เพราะการแยกการทำงานจะทำให้ปัญหาของความร้อนลดน้อยลง และ Housing ที่ใส่ให้กับกล้อง ควรเลือกรุ่นที่มีพัดลม (Blower) ด้วย และมี ip rating ที่ ip 55 เป็นอย่างน้อย หรือถ้าให้ดีก็ควรเลือกที่ IP66
- ควรเลือกกล้องที่มีราคาสูง และมีมาตรฐานการผลิตที่ดี
หลีกเลี่ยงกล้องที่มีราคาถูกซะ ไม่ใช่ต้องการให้เปลือง แต่กล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพราคาค่อนข้างสูง หากซื้อในราคาที่ขายกันต่ำกว่า 20,000 ลงมา (ราคาในประเทศไทย) ผมไม่แนะนำให้ใช้สำหรับองค์กร
- กรุณาให้ความสำคัญกับระบบบันทึก
แนวความคิดในการบันทึกข้อมูลจากกล้องวงจรปิด มี 2 แนวความคิดใหญ่ๆ คือแบบรวมศูนย์ (Centralize) และแบบกระจายศูนย์ (Decentralize) แน่นอน คุณภาพจะแตกต่างกัน ส่วนราคาก็ต่างกันมากด้วย สำหรับส่วนนี้ไว้เมื่อมีเวลา ผมจะกลับมาเขียนให้อีกที และไม่ว่าจะออกแบบการบันทึกแบบไหน จงอย่าประหยัดเรื่องขนาดในการบันทึกเด็ดขาด ในอัตราการเปลืองเนื้อที่ที่เท่ากัน จงให้ความสำคัญ กับขนาดที่ใช้บันทึก มากกว่าค่า Frame rate เสมอ (ไม่จำเป็นต้องบันทึกเป็น real-time)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น