วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อุปกรณ์ กันขโมย PIR กับการแบ่งเกรด

อุปกรณ์ กันขโมย PIR กับการแบ่งเกรด

วิธีเลือกซื้อ PIR กันเล่นๆละกันครับ
มาตรฐานการแบ่งเกรด ของอังกฤษตัวนี้เริ่มใช้ในปี 2005 ครับ โดยเป็นข้อกำหนดสำหรับการติดตั้งตามสถานที่ต่างๆครับ
สำหรับ security gradeในหมวด detector ของ intruder alarm แบ่งออกเป็น 4เกรดครับ คือ security grade 1-4
แล้วต่างกันตรงไหน ?
หน้าที่ของ pir หรือ detector ยังงัยก็ไม่เปลี่ยนครับ คือ ตรวจจับ และส่งสัญญาณจะต่างกันที่ฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามา และสถานที่ใช้งาน

สำหรับ grade 1 นั้นจะใช้ในที่มีความเสี่ยงต่ำไล่ไปเรื่อยๆจนถึง 4 ที่มีความเสี่ยสูง
security grade 1 – ให้ใช้ในสถานที่ ที่มีความเสี่ยงต่ำ สำหรับตลาด DIY เช่นสินค้า DIY จากจีนเป็นต้น
security grade 2 – ให้ใช้ในสถานที่ ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงกลาง เช่น ที่พักอาศัย เช่นบ้านพักโดยทั่วไป
security grade 3 – ให้ใช้ในสถานที่ ที่มีความเสี่ยงกลางถึงสูง เช่น ร้านค้าโดยทั่วไป
security grade 4 – ให้ใช้ในสถานที่ ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม

สำหรับทุกยี่ห้อที่ผมกล่าวและแนะนำในกระทู้ที่สอบถามต่างๆ เช่น honeywell, bosch, ness, wisdom, infinite, visonic, etc.. ล้วนมีอุปกรณ์ที่ใช้งานในระดับ security grade 2 ทั้งหมด
แล้วเอาอะไรมาแบ่งเกรด ?
สิ่งที่แบ่งเกรดก็คือฟังก์ชัน เช่น security grade 3 เรียกร้องให้ detector สามารถแจ้งเตือนเมื่อถูกวัตถุบดบังได้ (anti mask) และสามารถแจ้งสัญญาณไปที่เครื่องได้

ทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณภาพของ sensor ครับ
คุณภาพของ sensor ดูจากตรงไหน ?

วัดยาก สำหรับผม ดูจาก
1. ความสามารถในการแบ่งแยกจำนวนองศาได้ละเอียด
2. ดูวิธีการ sampling ข้อมูล ในแต่ละ sensor
3. หลักในการใช้ลำแสงในแต่ละ sensor
4. ความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักการเก็บข้อมูลตามสภาพแวดล้อม

สรุปเรื่อง security grade – สำหรับเราๆแล้ว ไม่ต้องไปใส่ใจในเรื่อง security grade เลยแม้แต่น้อย เพราะ datasheet ส่วนใหญ่จะไม่ได้โชว์
แล้วเลือกใช้แบบไหนดี ?
ง่ายๆครับ เลือกจากเทคโนโลยีที่ใช้ + Brand อีกนิดหน่อย ไม่ใช่ว่าแนะนำให้บ้าแบรนด์ แต่ของที่มีแบรนด์มักจะใช้ sensor ที่มีคุณภาพกว่า

- หากใช้สำหรับบ้านทั่วไป ?
ให้เลือกใช้ชนิด dual PIR ที่มีการให้ปรับ pulse หลายแบบหน่อยตั้งแต่ 2 ขึ้นไป

1 Pulse – ตรวจจับไว (พวกคนขายเวลา demo ชอบโชว์โดยใช้ตัวนี้ เราเห็นจะรู้สึกว่าตรวจจับไว)
2-3 pulse – ผม recommended ให้ใช้ standard ที่ 2 เพราะโดยปกติ ขโมยจะไม่วิ่งปรู๊ดแล้วหายเลยอยู่แล้ว มักจะเดินวนไปเวียนมานั่นแหละ

- หากใช้สำหรับร้านค้าหรือโรงงาน – ผมแนะนำให้ใช้ชนิด dual technology คือ microwave + pir เพราะ microwave จะมี reliability ในช่วงความร้อนที่มากกว่า และสาเหตุที่ระบบ wireless ไม่ใช้เทคโนโลยีประเภทนี้เพราะ มันกินไฟ นั่นเอง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น