ปัญหาต่างๆของการซื้อระบบกันขโมยไปติดตั้ง
ถ้าจะกล่าวถึงปัญหาของการลงทุนซื้อระบบกันขโมยมาติดตั้ง เพื่อใช้ในป้องกันภัยจาก ขโมยที่จะบุกรุก
เข้ามาในสถานที่ แต่กลับพบว่ามีปํญหาต่างๆตามมาหลังจากซื้อมาติดตั้งแล้วมากมาย อาทิเช่น
- บริษัทผู้ขายและติดตั้งระบบกันขโมย ติดตั้งให้แล้วแต่ไม่สวยงาม
- ปัญหาในเรื่องของการใช้งานระบบกันขโมย คือ ระบบไม่ได้อำนวยความสะดวกเท่าที่ควรในการใช้งาน
- ปัญหาของการเกิด False Alarm (การตรวจจับและแจ้งเตือนที่ผิดพลาด) ของระบบกันขโมยที่ซื้อมา
ทำให้เกิดความรำคาญ และไม่เชื่อมั่นในการรับแจ้งเหตุจากระบบว่าสิ่งที่แจ้งมาเกิดเหตุ จริง หรือ เท็จ
หากลูกค้าบางรายรำคาญมาก และเรียกบริษัทผู้ขายและติดตั้งมาแก้ไขก็แก้ไม่ได้ หรือบริษัทผู้ขายและ
ติดตั้งไม่เข้ามาดูให้อีกเลย ทำให้ผู้ซื้อระบบไปใช้ต้องเลิกใช้ระบบไปเลย
- ปัญหาของการให้บริการหลังการขายที่ไม่ดี คือ เวลาเรียกให้เข้ามาแก้ไขไม่เข้ามา , เข้ามาแต่หลายวัน
มากกว่าจะเข้ามาแก้ไขให้ , เข้ามาให้แต่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มในการเข้า , เข้ามาแล้วบอกว่าแก้ไขไม่ได้
- ปัญหาในการรับประกันระบบและสินค้าที่ซื้อ คือ ไม่รับประกันตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ , รับประกันแต่
อุปกรณ์เสียนำกลับไปซ่อมนานมากๆ , หาบริษัทผู้ขายและติดตั้งไม่เจอแล้ว , ระบบที่ซื้อมาไม่มีอะไหล่
เปลี่ยนซ่อมให้แล้ว
ปัญหาดังกล่าวในข้างต้น เป็นปัญหาที่ผู้ซื้อระบบกันขโมยไปติดตั้งและใช้งานจะต้องพบเจอ ไม่ข้อใดก็ข้อหนึ่ง
หรืออาจจะเจอทุกๆข้อจากที่กล่าวไป แต่ปัญหาต่างๆดังกล่าวทั้งหมดก็มีสาเหตุและมีที่มาของปัญหาด้วยเช่นกัน
ดังที่จะวิเคราห์ให้เข้าใจในต่อไปนี้
กล่าวถึง ฝ่ายลูกค้าผู้ซื้อ ระบบป้องกันบุกรุก-โจรกรรม (กันขโมย)
- ต้องการซื้อ ระบบกันขโมย (ทั้งแบบเดินสาย และแบบไร้สาย) ที่ดีๆ เช่น
ยี่ห้อดีๆ , ระบบการใช้งานดีๆ , ระบบการตรวจจับดีๆ , ระบบไม่มีการ False Alarm
(การตรวจจับและแจ้งเตือนที่ผิดพลาด)
- ต้องการได้การติดตั้ง ระบบกันขโมย (ทั้งแบบเดินสาย และแบบไร้สาย) ที่ดีๆ
ต้องการให้ทำการติดตั้งดังที่ผู้ซื้อคิด , อุปกรณ์ท่อ กับสายสัญญาณก็ต้องใช้ของดีๆ,
ต้องติดตั้งให้เนียบ , มีปัญหาในการติดตั้งต้องรีบมาแก้ไขให้เร็วและต้องแก้ให้ได้
- ต้องการได้ การบริการก่อนการซื้อ ที่ดีๆ เช่น
ต้องรีบเข้ามาพรีเซ็นต์เสนอระบบเวลาโทรมาซื้อ , ต้องรีบออกแบบวางระบบ และเสนอราคา
ต้องรีบเอาระบบที่เสนอมาสาธิต ก่อนสรุปสั่งซื้อ
- ต้องการได้ การบริการหลังการขาย ที่ดีๆ เช่น
การรับประกันสินค้าที่นานๆ , การเรียกเข้ามาแก้ไขปัญหาหากระบบมีปัญหาต้อง รวดเร็ว ทันใจผู้ซื้อ
- ต้องการซื้อระบบสินค้าที่ ราคาไม่แพง (เสนอราคามาเท่าไหร่ต่อต่ำสุดๆไว้ก่อนไม่ให้ไม่เอา)
- ต้องการให้คิดค่าติดตั้งระบบกันขโมยที่ซื้อ ถูกๆ (คิดแพงไม่เอา คิดถูกเอาไว้ก่อน)
กล่าวถึง ฝ่ายบริษัทผู้ขายและติดตั้ง ระบบป้องกันบุกรุก-โจรกรรม (กันขโมย)
- ต้องการขาย ระบบกันขโมย (ทั้งแบบเดินสาย และแบบไร้สาย) ที่ดีๆ เช่น
ยี่ห้อดีๆและขายได้ง่ายๆ , ระบบฟังก์ชั่นการใช้งานดีๆ , ระบบอุปกรณ์ตรวจจับที่ดีๆ ,
ระบบที่ขายไม่มีการเกิด False Alarm (การตรวจจับและแจ้งเตือนที่ผิดพลาด)
ขายไปแล้วไม่มีปัญหาในการทำงานของระบบ กับอุปกรณ์ที่ขาย จะได้ไม่ต้องเข้าไป
เซอร์วิสบ่อยๆ
- ต้องการติดตั้ง ระบบกันขโมย (ทั้งแบบเดินสาย และแบบไร้สาย) ให้ติดตั้งได้แบบง่าย,
สถานที่ติดตั้งใกล้กับบริษัทผู้ขายและติดตั้ง , สถานที่ติดตั้งๆได้ง่ายไม่ยุ่งยากมาก ,
จำนวนวันในการเข้าไปติดตั้งน้อยกว่าที่คิดราคาไว้ , ผู้ซื้อไม่จุกจิกและเรื่องมากในการ
ติดตั้งต่างๆ
- ต้องการขายสินค้าได้โดยเร็ว การให้บริการก่อนการซื้อ ไม่ยุ่งยาก เช่น
ลูกค้าให้พรีเซ็นต์เสนอขายระบบทางโทรศัพท์ได้ , ไม่ต้องเข้าไปออกแบบวางระบบ โดยทาง
ลูกค้าส่งแบบแปลนสถานที่ติดตั้งให้ทางอีเมล์ได้เลย จะได้ออกแบบวางระบบและเสนอราคาส่ง
กลับไปทางอีเมล์ให้ลูกค้าพิจารณา , ไม่ต้องเอาระบบอุปกรณ์ที่เสนอมาสาธิต ก่อนสรุปสั่งซื้อ
ใหลูกค้า้ดูจากสเปคอุปกรณ์ในโบว์ชัวร์สินค้าที่ส่งให้ทางอีเมล์แทน
- ต้องการให้ การบริการหลังการขาย น้อยๆ เช่น
ขายและติดตั้งไปแล้วขอให้ระบบไม่มีปัญหาจะได้ไม่ต้องเข้าไปเซอร์วิสเลย , ขายและติดตั้ง
ไปแล้วลูกค้าไม่โทรมาให้เข้าไปแก้ไขหรือทำอะไรเพิ่มเลย
- ต้องการขายระบบสินค้าที่ ได้ราคาขายดีๆ (เสนอราคาไปให้ลูกค้าแล้วลูกค้าต่อราคามาไม่มาก)
- ต้องการได้ราคาค่าติดตั้งระบบกันขโมยที่ คุ้มค่าและมีกำไร (ลูกค้าต่อราคามาไม่มาก)
ถ้าเปรียบเทียบดูจากความต้องการ ของ ฝ่ายลูกค้าผู้ซื้อ และ ฝ่ายบริษัทผู้ขายและติดตั้ง
ก็คงจะเห็นความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่แท้ที่จริงแล้วมันก็ คือ ความต้องการขั้นพื้นฐานของ
ผู้ซื้อสินค้า และ ผู้ขายสินค้า ต่างๆทั่วๆไป ซึ่งคงจะยากที่จะหา ความพอดี และ ความพึงพอใจสูงสุด
แต่ทุกๆปัญหาก็ต้องมีทางแก้ไข ซึ่งทางแก้ไขปัญหาต่างๆก็ต้องให้ทั้งทาง ฝ่ายลูกค้าผู้ซื้อ และ ฝ่าย
บริษัทผู้ขายและติดตั้ง ยอมที่จะเลือกลดความต้องการที่คาดหวังให้เป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและปัญหา
ต่างๆ ของทั้งทาง ฝ่ายลูกค้าผู้ซื้อ และ ฝ่ายบริษัทผู้ขายและติดตั้ง ก็จะลดลงและได้รับประโยชน์ซึ่ง
กันและกันทั้งสองฝ่าย เช่น
กล่าวถึง ฝ่ายลูกค้าผู้ซื้อ ระบบป้องกันบุกรุก-โจรกรรม (กันขโมย)
- ต้องการซื้อ ระบบกันขโมย (ทั้งแบบเดินสาย และแบบไร้สาย) ที่ดีๆ เช่น
ยี่ห้อดีๆ , ระบบการใช้งานดีๆ , ระบบการตรวจจับดีๆ , ระบบไม่มีการ False Alarm
(การตรวจจับและแจ้งเตือนที่ผิดพลาด)
การแก้ไข
- ให้เลือกระบบกันขโมย จาก แบรนด์ยี่ห้อ ที่มีผู้ใช้จำนวนมาก และ มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือ
ค้นหาข้อมูลเปรียบเทียบได้จากการ เสริท์หาใน Google หรือ ถามจากคนที่เคยใช้มาแล้ว
- หากจะเปรียบเทียบระบบของ 2 แบรนด์ยี่ห้อสินค้า ว่าแบรนด์ไหนมีระบบอุปกรณ์ดีกว่ากัน
ควรจะ เปรียบเทียบที่สเปคของระบบอุปกรณ์ , เปรียบเทียบที่สเปคการทำงานของระบบ
และเปรียบเทียบจากมาตรฐานของสินค้าที่เท่าๆกัน
- ต้องการได้การติดตั้ง ระบบกันขโมย (ทั้งแบบเดินสาย และแบบไร้สาย) ที่ดีๆ
ต้องการให้ทำการติดตั้งดังที่ผู้ซื้อคิด , อุปกรณ์ท่อ กับสายสัญญาณก็ต้องใช้ของดีๆ,
ต้องติดตั้งให้เนียบ , มีปัญหาในการติดตั้งต้องรีบมาแก้ไขให้เร็วและต้องแก้ให้ได้
การแก้ไข
- หาบริษัทฯ ที่มีทีมช่างติดตั้งระบบที่มีประสบการณ์สูง โดยติดตั้งให้ลูกค้ามาแล้วเป็นจำนวนมาก
ดูข้อมูลประสบการณ์ของทีมช่างติดตั้งได้จาก ลูกค้าอ้างอิงต่างๆที่เขาติดตั้งมาทั้งหมด
- ต้องการได้ การบริการก่อนการซื้อ ที่ดีๆ เช่น
ต้องรีบเข้ามาพรีเซ็นต์เสนอระบบเวลาโทรมาซื้อ , ต้องรีบออกแบบวางระบบ และเสนอราคา
ต้องรีบเอาระบบที่เสนอมาสาธิต ก่อนสรุปสั่งซื้อ
การแก้ไข
- เลือกหาบริษัทฯผู้ขาย ที่อยู่ใกล้กับบริเวณเส้นทางสถานที่ติดตั้ง ของ ลูกค้าผู้ซื้อ และก่อน
ที่จะให้บริษัทฯผู้ขาย เอาระบบอุปกรณ์ที่ ลูกค้าผู้ซื้อ จะซื้อมาสาธิตให้ดู ขอให้ ลูกค้าผู้ซื้อ
แน่ใจและตกลงใจที่จะซื้อสินค้าจาก บริษัทฯผู้ขาย ที่จะให้เขาเอาเข้ามาสาธิตให้ดู
- ต้องการได้ การบริการหลังการขาย ที่ดีๆ เช่น
การรับประกันสินค้าที่นานๆ , การเรียกเข้ามาแก้ไขปัญหาหากระบบมีปัญหาต้อง รวดเร็ว ทันใจผู้ซื้อ
การแก้ไข
- ควรพิจารณาเงื่อนไข และ ถามข้อตกลงในการให้บริการหลังการขาย ต่างๆก่อนตัดสินใจซื้อ และ
ควรรับฟังเงื่อนไขที่ทาง บริษัทผู้ขาย ชี้แจงให้ฟังด้วย
- ต้องการซื้อระบบสินค้าที่ ราคาไม่แพง (เสนอราคามาเท่าไหร่ต่อต่ำสุดๆไว้ก่อนไม่ให้ไม่เอา)
การแก้ไข
- หากท่านเลือก แบรนด์ยี่ห้อ ที่จะซื้อได้แล้วจริงๆ ก็ควรเปรียบเทียบราคาในแบรนด์ยี่ห้อเดียวกัน
แค่ 2 บริษัทก็พอ เพราะถ้าเป็น แบรนด์ยี่ห้อ เดียวกันราคาก็คงจะต่างกันไม่มากแต่ก็ต้องดูด้วย
ว่าบริษัทที่เสนอรายใดใกล้กับสถานที่ติดตั้งของท่านมากกว่า
- อย่าเอา แบรนด์ยี่ห้อดังๆ ไปเปรียบเทียบกับ แบรนด์ยี่ห้อไม่ดังเด็ดขาด เพราะนั้นคือท่านจะไม่
ได้อะไรจากการแก้ปัญหาเลย
- หากจะเปรียบเทียบราคาของ 2 แบรนด์ยี่ห้อสินค้า ว่าแบรนด์ไหนราคาสินค้าถูกกว่ากัน ควรจะ
เปรียบเทียบที่สเปคของระบบสินค้าที่พอๆกัน , เปรียบเทียบที่จำนวนอุปกรณ์ที่จะซื้อเท่าๆกัน ,
เปรียบเทียบที่การรับประกันสินค้าที่เท่าๆกัน
- ต้องการให้คิดค่าติดตั้งระบบกันขโมยที่ซื้อ ถูกๆ (คิดแพงไม่เอา คิดถูกเอาไว้ก่อน)
การแก้ไข
- ควรดูจากวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการติดตั้ง เช่น ท่อ - สายนำสัญญาณ ที่ใช้ในการติดตั้ง , จุด
ของจำนวนอุปกรณ์ในการติดตั้งว่ามากแค่ไหน , ความยากในการติดตั้งของสถานที่ , ระยะเวลา
ในการเข้า - ออกสถานที่ในการติดตั้งของช่างที่รับติดตั้ง
- หากท่านเลือก แบรนด์ยี่ห้อ ที่จะซื้อได้แล้วจริงๆ ก็ควรเปรียบเทียบราคาในแบรนด์ยี่ห้อเดียวกัน
แค่ 2 บริษัทก็พอ เพราะถ้าเป็น แบรนด์ยี่ห้อ เดียวกันราคาก็คงจะต่างกันไม่มากแต่ก็ต้องดูด้วย
ว่าบริษัทที่เสนอรายใดใกล้กับสถานที่ติดตั้งของท่านมากกว่า
- อย่าเอา แบรนด์ยี่ห้อดังๆ ไปเปรียบเทียบกับ แบรนด์ยี่ห้อไม่ดังเด็ดขาด เพราะแบรนด์ยี่ห้อไม่ดัง
อาจจะโยกค่าติดตั้งไปไว้ในค่าสินค้าที่เขามีต้นทุนถูกกว่าแบรนด์ดังอยู่แล้ว ทำให้ค่าติดตั้งเขาจะ
ดูถูกลงกว่าได้
- หากจะเปรียบเทียบราคาของ 2 แบรนด์ยี่ห้อสินค้า ว่าแบรนด์ไหนราคาค่าติดตั้งถูกกว่ากัน ควร
จะเปรียบเทียบที่สเปคของระบบสินค้าที่พอๆกัน , เปรียบเทียบที่จำนวนอุปกรณ์ที่จะซื้อเท่าๆกัน ,
เปรียบเทียบที่การรับประกันสินค้าที่เท่าๆกัน , ท่อ และ สายนำสัญญาณ ที่สเปคเท่าๆกัน
กล่าวถึง ฝ่ายบริษัทผู้ขายและติดตั้ง ระบบป้องกันบุกรุก-โจรกรรม (กันขโมย)
- ต้องการขาย ระบบกันขโมย (ทั้งแบบเดินสาย และแบบไร้สาย) ที่ดีๆ เช่น
ยี่ห้อดีๆและขายได้ง่ายๆ , ระบบฟังก์ชั่นการใช้งานดีๆ , ระบบอุปกรณ์ตรวจจับที่ดีๆ ,
ระบบที่ขายไม่มีการเกิด False Alarm (การตรวจจับและแจ้งเตือนที่ผิดพลาด)
ขายไปแล้วไม่มีปัญหาในการทำงานของระบบ กับอุปกรณ์ที่ขาย จะได้ไม่ต้องเข้าไป
เซอร์วิสบ่อยๆ
การแก้ไข
- หาแบรนด์ยี่ห้อสินค้าที่ดีๆมาจำหน่าย , ควรทำการติดตั้งระบบให้ดีๆตามมาตรฐาน,
ขายสินค้าในราคาที่พอมีกำไรอย่าเอากำไรเกินควรแล้วจะได้ทั้งลูกค้าที่ดีและยอด
ขายสินค้าที่ดีขึ้น เพราะลูกค้าจะบอกปากต่อปากว่าบริษัทดี ขายราคายุติธรรม เอง
- ต้องการติดตั้ง ระบบกันขโมย (ทั้งแบบเดินสาย และแบบไร้สาย) ให้ติดตั้งได้แบบง่าย,
สถานที่ติดตั้งใกล้กับบริษัทผู้ขายและติดตั้ง , สถานที่ติดตั้งๆได้ง่ายไม่ยุ่งยากมาก ,
จำนวนวันในการเข้าไปติดตั้งน้อยกว่าที่คิดราคาไว้ , ผู้ซื้อไม่จุกจิกและเรื่องมากในการ
ติดตั้งต่างๆ
การแก้ไข
- ควรตกลงเงื่อนไขทั้งหมดในการติดตั้งให้ลูกค้าทราบก่อนว่าตกลงหรือไม่ก่อนจะติดตั้ง
- ควรใช้ทีมช่างที่มีประสบการณ์สูงในการติดตั้งวางระบบทั้งหมด อย่าเอาช่างที่ไม่เป็นไป
ฝึกติดตั้งให้กับสถานที่ติดตั้งของลูกค้าเด็ดขาด เพราะปัญหาการติดตั้งผิดจะเกิดแน่นอน
- ควรมีการวางแผนการติดตั้งให้ดีๆ และให้มีผู้ประสานงานกับทางสถานที่ติดตั้งตลอดเวลา
เพื่อลดการผิดพลาด ในการประสานงานในกำหนดการติดตั้งต่างๆ
- ต้องการขายสินค้าได้โดยเร็ว การให้บริการก่อนการซื้อ ไม่ยุ่งยาก เช่น
ลูกค้าให้พรีเซ็นต์เสนอขายระบบทางโทรศัพท์ได้ , ไม่ต้องเข้าไปออกแบบวางระบบ โดยทาง
ลูกค้าส่งแบบแปลนสถานที่ติดตั้งให้ทางอีเมล์ได้เลย จะได้ออกแบบวางระบบและเสนอราคาส่ง
กลับไปทางอีเมล์ให้ลูกค้าพิจารณา , ไม่ต้องเอาระบบอุปกรณ์ที่เสนอมาสาธิต ก่อนสรุปสั่งซื้อ
ใหลูกค้า้ดูจากสเปคอุปกรณ์ในโบว์ชัวร์สินค้าที่ส่งให้ทางอีเมล์แทน
การแก้ไข
- ควรจะขายสินค้าให้กับ ลูกค้าผู้ซื้อ ที่อยู่ใกล้ๆกับสถานที่ตั้งของบริษัทผู้ขาย
- เมื่อลูกค้าติดต่อสอบถามที่จะซื้อระบบอุปกรณ์มา ให้รีบอธิบายระบบให้ลูกค้าทราบ และรีบไป
ออกแบบแปลนสถานที่ของลูกค้า หรือ ให้ขอแบบแปลนสถานที่ติดตั้งของลูกค้ากับทางลูกค้า
ถ้ามี เพื่อนำมาออกแบบวางระบบในแบบแปลน และรีบทำใบเสนอราคาให้ตามจำนวนอุปกรณ์ที่
วางระบบไว้ในแบบแปลน เมื่อทำเสร็จแล้วก็รีบส่งให้กับทางลูกค้าในทันที ทุกขั้นตอนควรจัดทำ
อย่างรวดเร็ว แล้วบริษัทท่านจะมีโอกาสในการขายที่สูงขึ้น-มียอดนำเสนอลูกค้าเป็นจำนวนมาก
- ต้องการให้ การบริการหลังการขาย น้อยๆ เช่น
ขายและติดตั้งไปแล้วขอให้ระบบไม่มีปัญหาจะได้ไม่ต้องเข้าไปเซอร์วิสเลย , ขายและติดตั้ง
ไปแล้วลูกค้าไม่โทรมาให้เข้าไปแก้ไขหรือทำอะไรเพิ่มเลย
การแก้ไข
- ให้หาแบรนด์ยี่ห้อสินค้า ที่มีมาตรฐาน และ มีระบบอุปกรณ์ที่ดีมาขาย
- ให้ช่างติดตั้งวางระบบการติดตั้งเดินท่อ เดินสายนำสัญญาณให้ดีๆ และมีมาตรฐาน
- ให้ติดตั้งอุปกรณ์สินค้าให้ เป็นไปตามที่สเปคการติดตั้งของอุปกณณ์ชนิดนั้นๆกำหนดไว้
- ควรจะกำหนดขอบเขตและเงื่อนไข ของการให้บริการหลังการขายให้ชัดเจน
- ควรจะมีช่างที่เพียงพอกับการให้บริการหลังการขาย และช่างควรมีประสบการณ์ในการ
แก้ไขปัญหาต่างๆได้ดี
- หากบริษัทไม่มีช่างของบริษัทเอง หรือมีช่างแต่แก้ไขปัญหาไม่ค่อยได้ ก็อย่าทำธุรกิจนี้
ต่อไปเลยครับ ให้บริษัทไปหาธุรกิจอื่นที่ไม่ต้องติดตั้งและมีบริการหลังการขายทำจะดีกว่า
- ต้องการขายระบบสินค้าที่ ได้ราคาขายดีๆ (เสนอราคาไปให้ลูกค้าแล้วลูกค้าต่อราคามาไม่มาก)
การแก้ไข
- สินค้าระบบป้องกันบุกรุก-โจรกรรม(กันขโมย) ส่วนใหญ่ร้อยละ 99.99% เป็นสินค้าที่นำเข้ามาจาก
ต่างประเทศอยู่แล้ว โดย 1 แบรนด์สินค้า อาจจะมีบริษัทผู้ขาย 10 รายขึ้นไปก็ได้ หรือ มากกว่านั้น
แต่ก็มีบริษัทผู้ขายที่ขอผูกขาดขาย 1 แบรนด์สินค้ารายเดียวเลยก็มี ทำให้การ กำหนดราคาตั้งขาย
สินค้าของ ระบบป้องกันบุกรุก-โจรกรรม (กันขโมย) ก็มีราคาตั้งตามบริษัทฯที่นำเข้ามาอยู่แล้ว หาก
จะดูราคาตั้งก็คงจะไม่แตกต่างกันในแบรนด์ยี่ห้อสินค้าเดียวกัน แต่จะต่างกันก็คือ ส่วนลดสินค้าที่ทาง
บริษัทผู้ขาย ลดให้กับทาง ลูกค้าผู้ซื้อ ที่จะให้ส่วนลดไม่เท่ากัน ซึ่งปัจจัยในการให้ส่วนลดของบริษัท
ผู้ขายแต่ละรายก็ขึ้นอยู่กับ จำนวนค่าจ้างพนักงานในบริษัท , ค่าใช้จ่ายต่างๆของบริษัท , ระยะทาง
ของสถานที่ติดตั้งของลูกค้ากับบริษัท , ต้นทุนสินค้าสุทธิที่ซื้อสินค้ามาจากผู้นำเข้าสินค้า , การวาง
แผนของผู้บริหารบริษัทเองว่าขายสินค้ากำไรเท่าใดถึงจะคุ้มกับการรับประกันและการให้บริการหลัง
การขายของสินค้านั้นๆ และบริษัทต้องได้กำไรสินค้านั้นๆเท่าไหร่
- ไม่ควรตั้งราคาขายสินค้า แพงกว่าบริษัทฯอื่นที่ขายแบรนด์ยี่ห้อสินค้าเดียวกันกับทางบริษัทฯ
- ไม่ควรให้ส่วนลดมากเกินกว่าที่กำหนดไว้ เพราะหวังแค่จะขายสินค้าให้ได้ พอขายไปแล้วก็มาบ่นว่าไม่
มีกำไร จนทำให้เวลาลูกค้าเรียกเข้าไปเซอร์วิสหลังการขายก็ไม่ยอมเข้าไปบอกว่าไม่มีกำไร แต่ถ้ามี
กำไรตามยอดผลกำไรที่กำหนดไว้ แล้วไม่ยอมเข้าไปเซอร์วิสให้ลูกค้าอยู่ดี เขาเรียก บริษัทฯขายทิ้ง
บริษัทฯ พวกนี้ขายลูกค้าได้อีกไม่กี่รายเดี๋ยวก็เจ๊งจนปิดบริษัทฯไปเองเลย เพราะไม่มีใครมาซื้อต่อไป
- ต้องการได้ราคาค่าติดตั้งระบบกันขโมยที่ คุ้มค่าและมีกำไร (ลูกค้าต่อราคามาไม่มาก)
การแก้ไข
- ควรเสนอราคาค่าติดตั้งตามความเป็นจริง ตามจำนวนอุปกณ์ที่ใช้ติดตั้งจริง ตามค่าแรงและระยะเวลาใน
การเข้าติดตั้งจริง และควรจะคุยข้อตกลงในการติดตั้งกับทางลูกค้าผู้ซื้อให้เรียบร้อยก่อนทำการติดตั้ง
เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
- ควรมีทีมช่างติดตั้งที่เป็นพนักงานของทางบริษัทฯ เองอย่าจ้างซัพติดตั้งจากภายนอกมารับงานติดตั้ง
เพราะไม่สามารถกำหนดราคาได้ ซัพติดตั้ง จะกำหนดราคามา แล้วบริษัทฯก็ต้องไปบวกราคาเพิ่มเสนอ
ลูกค้า ซึ่งโอกาสจะได้งานก็จะน้อยถ้าไปเปรียบเทียบราคากับบริษัทฯที่เขาเสนอราคาแบบใช้ช่างที่เป็น
พนักงานของบริษัทฯ เขาเองโดยที่เขาสามารถคุมราคาค่าติดตั้งที่เสนอได้ทั้งหมด
- ควรฝึกทีมช่างติดตั้งที่เป็นพนักงานของทางบริษัทฯ เองให้มีความชำนาญในการติดตั้ง และโปรแกรม
ระบบการทำงานของสินค้าต่างๆ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในการทำงานที่ล้าช้า และมีปัญหาในการติดตั้งผิด
พลาด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น