ผักผลไม้สุดยอดอาหารชะลอวัย
สำหรับใครที่ไม่ชอบรับประทานผักผลไม้ หรือรับประทานปริมาณน้อย ก็ควรหันมารับประทานผักและผลไม้เพิ่มมากขึ้น โดยเพิ่มปริมาณการรับประทานผักผลไม้ในทุกมื้อ หรือเพิ่มการดื่มน้ำผลไม้ รวมทั้งอาจเพิ่มเมนูของว่างด้วยผลไม้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณรับประทานผักผลไม้มากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
จากผลการสำรวจ เป็นที่น่าใจหายและเป็นห่วง เพราะผลสำรวจออกมาว่า ทุกคนควรรับประทานผักและผลไม้ให้ได้วันละ 400 กรัมต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์เพียงพอ แต่ทว่าผลการสำรวจล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า คนไทยรับประทานผักผลไม้เพียงวันละ 270 กรัมต่อวันเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำกว่ามาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม การทานผักผลไม้สำหรับบางคนอาจจะเป็นเรื่องยุ่งยาก โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ไม่ค่อยจะพิศสมัยในการกินผักผลไม้เท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากเราได้รู้ถึงคุณประโยชน์ของผักผลไม้หลากชนิดที่เรารับประทานแล้ว ล่ะก็ อาจจะต้องรีบหาผักผลไม้ชนิดโปรดมาไว้รับประทานเพื่อสุขภาพของตัวคุณเองเป็น แน่ เพราะผักและผลไม้แต่ละชนิดให้คุณประโยชน์แตกต่างกัน ซึ่งการรับประทานผักผลไม้ในที่นี้ หมายถึงการรับประทานให้หลากหลายชนิด คือ ควรรับประทานผักทั้งใบ ดอก ราก หน่อ ฯลฯ
แตงกวานี่แหละเด็ดสุด!! สำหรับฤดูร้อน
แตงกวามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ สมัยก่อนเวลาเดินทางไปไหนยามอากาศร้อน ในสมัยที่จะพกพาน้ำไปไหนต่อไหนด้วยลำบาก ผู้ใหญ่มักจะให้กินแตงกวาดับกระหาย แถมกินแตงกวาแล้วร่างกายจะเย็นลงด้วย เมื่ออากาศเริ่มร้อน จึงน่าจะหันมากินแตงกวากัน
ที่จริงคนโบราณไม่ว่าไทย จีน หรืออินเดีย มีความเห็นตรงกันว่าแตงกวาเป็นยาเย็น ผลแตงกวาจึงถูกใช้เป็นยาแก้ร้อนใน ดับกระหายน้ำ เหมือน ๆ กัน แถมทั้งใบ เถา และรากแตงกวาก็เป็นยาเย็นเหมือนกันหมด
ผลแตงกวา ยังสามารถใช้แก้อาการเจ็บคอ บรรเทาอาการหวัดที่เกิดยามอากาศเปลี่ยนเป็นร้อน และขับปัสสาวะให้ร่างกายคลายร้อนได้ด้วยน้ำคั้นจากผลแตงกวาสามารถลดน้ำตาลในเลือด แก้กรดไหลย้อน และขับปัสสาวะได้ดี
ผลแตงกวาตรงหัวหรือส่วนที่ติดกับขั้วของมันมักจะมีรสขม และมียางสีขาว ๆ สมัยก่อนเมื่อตัดขั้วแตงกวาออก ผู้ใหญ่จะให้เอาส่วนหัวของแตงกวาถูกับเนื้อของมันเพื่อกระตุ้นให้ยางและความ ขมของมันออกมามากขึ้น เป็นการลดความขมในเนื้อแตงลง ที่จริงความขมของแตงกวาคือสารชนิดหนึ่งชื่อคิวเคอร์บิตาซิน ซึ่งจากการทดลองในสัตว์ให้ผลที่น่าสนใจคือมีฤทธิ์ต่อต้านการโตของเนื้องอก
เมล็ดแตงกวามีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แต่มีพิวรีนสูงหากใครที่เป็นโรคเกาต์ มียูริกในร่างกายสูงไม่ควรกินเมล็ดของมัน หากเป็นเกาต์แล้วอยากกินแตงกวาก็ง่ายนิดเดียว ให้ขูดเอาไส้และเมล็ดของมันทิ้งเสีย
ผิวสวยสุขภาพดีด้วยสับปะรด
ผลไม้ของไทยมีมากมาย และหนึ่งในนั้นที่หาได้ง่ายมาก ๆ และมีแทบจะทุกฤดูกาลคงหนีไม่พ้น
สับปะรด ซึ่งนอกจากจะสามารถกินสด ๆ แล้วยังนำมาประกอบเป็นอาหารต่าง ๆ อาทิเช่น แกงคั่ว ต้มยำ
หรือทำเป็นแยมผลไม้ เช่น แยมสับประรด ในเรื่องของความสวยความงาม สับปะรดก็มีคุณประโยชน์อีก
เช่นกัน เนื่องจากมีวิตามินซี เอนไซม์ เกลือแร่ วิตามินอื่น ๆ มากมายหลายชนิด ช่วยขับปัสสาวะ ป้อง
กันไตอักเสบ ความดันโลหิตสูง หลอดลมอักเสบ และมีสรรพคุณช่วยเสริมการดูดซึมอาหารอีกด้วย เห็น
คุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมายแล้ว เราจึงควรหันมาทานสับปะรดกันให้มากยิ่งขึ้น วันนี้มีสูตรการทำน้ำ
สับปะรดแสนอร่อยมาฝากกัน
โดยมีส่วนผสมดังนี้
เนื้อสับปะรด 1 ถ้วย
น้ำแข็ง 1 ถ้วย
น้ำเชื่อม 1/3 ถ้วย
เกลือ เล็กน้อย
วิธีการทำ
หลังจากเฉือนเอาตาสับปะรดออกหมดแล้ว นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำส่วนผสมทั้งหมด
ไปปั่นในเครื่องปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นกรองเอากากออก
เติมน้ำเชื่อม น้ำแข็งและเกลือป่น จะได้น้ำสีเหลืองดื่มแก้กระหายได้เลย
นอกจากจะทำมาดื่มแก้กระหายได้แล้วยังนำสับปะรดมาใช้ในการทำให้หน้าขาว ไร้ความมันได้
เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสาว ๆ ผิวมันที่มีส่วนมันบริเวณจุดต่าง ๆ เช่น หน้าผาก จมูก ฯลฯ ซึ่ง
นอกจากจะช่วยลดความมันบนใบหน้าแล้ว ยังทำให้หน้าสะอาดหมดจด ผิวหน้าเรียบเนียน อีกด้วย
วิธีการทำมีดังนี้ คือ
นำสับปะรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปปั่นจนเนื้อละเอียดเป็นครีมข้น
หลังล้างหน้า ซับหน้าให้หมาด พอกครีมสับปะรดทิ้งไว้ 20-30 นาที จึงล้างออก
ทำสัปดาห์ละครั้ง เป็นเวลา 2 เดือนจะเห็นผลชัดเจน
นอกจากทำได้ง่าย ๆ มีคุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย หวังว่าคงจะไปลองทำกันดูนะค่ะ
เคล็ดลับหุ่นเพรียวสวย
เคล็ดลับดูแลผม สวยสวย มีน้ำหนัก ไม่แห้งเสีย
รวมเคล็ดลับการดูแลผิว ด้วยผัก ผลไม้ สมุนไพร
นานาเคล็ดลับสำหรับผู้หญิง เรื่องผู้หญิง ๆ
เคล็ดลับการแต่งหน้า สวยโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม
แตงกวามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ สมัยก่อนเวลาเดินทางไปไหนยามอากาศร้อน ในสมัยที่จะพกพาน้ำไปไหนต่อไหนด้วยลำบาก ผู้ใหญ่มักจะให้กินแตงกวาดับกระหาย แถมกินแตงกวาแล้วร่างกายจะเย็นลงด้วย เมื่ออากาศเริ่มร้อน จึงน่าจะหันมากินแตงกวากัน
ที่จริงคนโบราณไม่ว่าไทย จีน หรืออินเดีย มีความเห็นตรงกันว่าแตงกวาเป็นยาเย็น ผลแตงกวาจึงถูกใช้เป็นยาแก้ร้อนใน ดับกระหายน้ำ เหมือน ๆ กัน แถมทั้งใบ เถา และรากแตงกวาก็เป็นยาเย็นเหมือนกันหมด
ผลแตงกวา ยังสามารถใช้แก้อาการเจ็บคอ บรรเทาอาการหวัดที่เกิดยามอากาศเปลี่ยนเป็นร้อน และขับปัสสาวะให้ร่างกายคลายร้อนได้ด้วยน้ำคั้นจากผลแตงกวาสามารถลดน้ำตาลในเลือด แก้กรดไหลย้อน และขับปัสสาวะได้ดี
ผลแตงกวาตรงหัวหรือส่วนที่ติดกับขั้วของมันมักจะมีรสขม และมียางสีขาว ๆ สมัยก่อนเมื่อตัดขั้วแตงกวาออก ผู้ใหญ่จะให้เอาส่วนหัวของแตงกวาถูกับเนื้อของมันเพื่อกระตุ้นให้ยางและความ ขมของมันออกมามากขึ้น เป็นการลดความขมในเนื้อแตงลง ที่จริงความขมของแตงกวาคือสารชนิดหนึ่งชื่อคิวเคอร์บิตาซิน ซึ่งจากการทดลองในสัตว์ให้ผลที่น่าสนใจคือมีฤทธิ์ต่อต้านการโตของเนื้องอก
เมล็ดแตงกวามีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แต่มีพิวรีนสูงหากใครที่เป็นโรคเกาต์ มียูริกในร่างกายสูงไม่ควรกินเมล็ดของมัน หากเป็นเกาต์แล้วอยากกินแตงกวาก็ง่ายนิดเดียว ให้ขูดเอาไส้และเมล็ดของมันทิ้งเสีย
ผิวสวยสุขภาพดีด้วยสับปะรด
ผลไม้ของไทยมีมากมาย และหนึ่งในนั้นที่หาได้ง่ายมาก ๆ และมีแทบจะทุกฤดูกาลคงหนีไม่พ้น
สับปะรด ซึ่งนอกจากจะสามารถกินสด ๆ แล้วยังนำมาประกอบเป็นอาหารต่าง ๆ อาทิเช่น แกงคั่ว ต้มยำ
หรือทำเป็นแยมผลไม้ เช่น แยมสับประรด ในเรื่องของความสวยความงาม สับปะรดก็มีคุณประโยชน์อีก
เช่นกัน เนื่องจากมีวิตามินซี เอนไซม์ เกลือแร่ วิตามินอื่น ๆ มากมายหลายชนิด ช่วยขับปัสสาวะ ป้อง
กันไตอักเสบ ความดันโลหิตสูง หลอดลมอักเสบ และมีสรรพคุณช่วยเสริมการดูดซึมอาหารอีกด้วย เห็น
คุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมายแล้ว เราจึงควรหันมาทานสับปะรดกันให้มากยิ่งขึ้น วันนี้มีสูตรการทำน้ำ
สับปะรดแสนอร่อยมาฝากกัน
โดยมีส่วนผสมดังนี้
เนื้อสับปะรด 1 ถ้วย
น้ำแข็ง 1 ถ้วย
น้ำเชื่อม 1/3 ถ้วย
เกลือ เล็กน้อย
วิธีการทำ
หลังจากเฉือนเอาตาสับปะรดออกหมดแล้ว นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำส่วนผสมทั้งหมด
ไปปั่นในเครื่องปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นกรองเอากากออก
เติมน้ำเชื่อม น้ำแข็งและเกลือป่น จะได้น้ำสีเหลืองดื่มแก้กระหายได้เลย
นอกจากจะทำมาดื่มแก้กระหายได้แล้วยังนำสับปะรดมาใช้ในการทำให้หน้าขาว ไร้ความมันได้
เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสาว ๆ ผิวมันที่มีส่วนมันบริเวณจุดต่าง ๆ เช่น หน้าผาก จมูก ฯลฯ ซึ่ง
นอกจากจะช่วยลดความมันบนใบหน้าแล้ว ยังทำให้หน้าสะอาดหมดจด ผิวหน้าเรียบเนียน อีกด้วย
วิธีการทำมีดังนี้ คือ
นำสับปะรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปปั่นจนเนื้อละเอียดเป็นครีมข้น
หลังล้างหน้า ซับหน้าให้หมาด พอกครีมสับปะรดทิ้งไว้ 20-30 นาที จึงล้างออก
ทำสัปดาห์ละครั้ง เป็นเวลา 2 เดือนจะเห็นผลชัดเจน
นอกจากทำได้ง่าย ๆ มีคุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย หวังว่าคงจะไปลองทำกันดูนะค่ะ
เคล็ดลับหุ่นเพรียวสวย
เคล็ดลับดูแลผม สวยสวย มีน้ำหนัก ไม่แห้งเสีย
รวมเคล็ดลับการดูแลผิว ด้วยผัก ผลไม้ สมุนไพร
นานาเคล็ดลับสำหรับผู้หญิง เรื่องผู้หญิง ๆ
เคล็ดลับการแต่งหน้า สวยโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น