มาตรวจภายในกันเถอะ
มาตรวจภายใหนกันเถอะ
พอถึงเรื่งอตรวจภายใหนทำให้ผู้หญิงหลายท่านเกิดความอาย หรือไม่กล้า แต่จริง ๆ แล้วการตรวจภายในเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับผู้หญิง เพราะมะเร็งเป็นโรคที่น่ากลัวมากสำหรับผู้หญิง ผู้หญิงต้องทำการตรวจอยู่สองอย่างเป็นหลัก คือ มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม เราจะทำการตรวจถื่แค่ใหน อันนี้เป็นคำแนะนำ แต่ถ้าให้ดีก็ควรถามคุณหมอประจำตัวของท่านนะคะ
อายุ และความถี่ของการตรวจ
21 – 29 ให้ตรวจปีละครั้ง
30 – 69 ให้ตรวจทุก 2-3ปีหากการตรวจ 3 ครั้งหลังให้ผลปกติ
70 และมากกว่า ให้หยุดตรวจเมื่อการตรวจ 3 ครั้งหลังและ 10 ปีที่ผ่านมาผลการตรวจปกติ
วิธีสังเกตผู้ชายโกหก
จับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย : เช่น จับจมูก จับหู ถูคอ เจออาการแบบนี้ เตรียมตัวตั้งได้รับเลย
กลอกตาไปมา : กำลังใช้ความคิดอย่างหนักเลย ว่าจะทำยังไงดี
ชะงักก่อนตอบ : คนที่พูดความจริงจะไม่ชะงัก เพราะไม่ต้องคิดอะไร ตอบออกไปได้เลย
โวยวายใส่ : กำลังถาม ๆ อยู่ ทำไมถึงโวยวายใส่นะ ก็เพราะเขากลบเกลื่อนความผิดอยู่ โวยวายใส่จะได้เลิกถาม
กระพริบตาบ่อย ๆ : คนโกหกจะกระพริบตาบ่อย เพราะปกปิดความจริงที่จะออกมาทางแววตา
ไม่กล้าโชว์มือ : เวลาคนเครียด สังเกตดี ๆ คนโกหกมือจะไม่อยู่นิ่ง จับนั่นจับนี่ตลอดเวลา
รู้อย่างนี้แล้ว ลองนำไปสังเกตคนรักดูได้ เพราะอาจจะจับโกหกได้.
ข้อมูลดี ๆ จาก snook.com
ถึงสาว ๆ รับมือวันแดงเดือน
เมื่อใกล้มีประจำเดือน ผู้หญิง 80% ทั่วไป จะมีอาการของรอบเดือน มักเกิดความไม่สบายทางร่างกายและจิตใจ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นอาการป่วยชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้หลายคนต้องสูญเสียสัมพันธภาพกับคนรัก บางคนตัดสินใจด้านธุรกิจผิดพลาดไปในช่วงนี้
อาการไม่สบายขณะมีประจำเดือนจะพบได้หลากหลายมากกว่า 150 ชนิด สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่มใหญ่
กลุ่มแรกเรียกว่าอาการเจ้าน้ำตา
จะมีอาการหดหู่ ร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ ตัดสินใจอะไรยากขึ้น สับสนและหลงลืมบ่อยๆ นอนไม่พอ เหนื่อยง่าย รู้สึกเหมือนไม่ได้พักผ่อน ผู้ที่มีอาการแบบนี้ระหว่างมีประจำเดือนควรดูแลเรื่องอาหารการกินให้ดี บริโภคอาหารไขมัน ต่ำให้มาก เพราะเกลือและไขมันที่สูงจะไปเพิ่มระดับ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เกิดอาการเช่นนี้ นอกจากนี้ควรหาเวลาพักเมื่อรู้สึกเหนื่อย ทำสมาธิหรือเล่นโยคะก็จะช่วยได้มาก แร่ธาตุที่จำเป็นช่วงนี้ คือสังกะสี ซึ่งจะช่วยลดอาการเศร้าหดหู่ได้
กลุ่มที่สองเรียกว่าอาการขี้โมโห
จะหมดความอดกลั้นจนระเบิดอารมณ์บ่อย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ปรวนแปรจนตามไม่ทัน วิตกกังวลกว่าปกติที่เคยเป็น หุนหัน และทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดบ่อยๆ วิธีแก้ไขอาการเหล่านี้คือบริโภคอาหารมื้อเล็กๆแต่บ่อยครั้งขึ้น อาการนี้เกิดขึ้นเพราะขาดน้ำตาลในเลือดทำให้หงุดหงิดง่าย การออกกำลังเช่นเดินหรือปั่นจักรยาน จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ควรบริโภควิตามิน บี 6ให้มาก และอย่าลืมบอกกล่าวคนใกล้ตัวด้วย เพื่อที่เขาจะได้พร้อมให้อภัยในเวลาที่คุณเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา
อาการที่สามที่มักพบได้บ่อยๆ คือ อาการ ท้องอืด
รู้สึกว่าเต้านมบวม เนื้อเหลว มีหน้าท้องใหญ่ขึ้น น้ำหนักขึ้น มือเท้าบวมจน สังเกตได้ มีอาการบวมน้ำตามส่วนต่างๆของร่างกาย วิธี การรักษาคือต้องลดการบริโภคเกลือลง อาหารที่มีโปรตีน วิตามินบี 6 และไฟเบอร์สูงจะช่วยให้หน้าอกกระชับและตึงขึ้น หากมีอาการท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย ควรงดกาแฟและแอลกอฮอล์ก่อนมีรอบเดือน ไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์
อาการที่สี่คืออาการไม่มีแรง
โดยจะมี ปัญหาเกี่ยวกับผิวช่วงที่มีรอบเดือน เช่น สิว ฝ้า ปวดศีรษะและหลัง ไม่มีแรง ใจสั่น อารมณ์อ่อนไหวง่าย ร่างกายเจ็บปวดบ่อยโดยไม่มีสาเหตุ ขาดความกระตือรือร้นทางเพศ ควรงดอาหาร หวานจัด แอลกอฮอล์ บุหรี่ และสารกระตุ้นทุกชนิด บริโภควิตามินเอ เพื่อช่วยรักษาสภาพผิว
อาการสุดท้ายคืออาการ หิวบ่อย
จะมีลักษณะอยากทานอาหารหวานจัด เช่น เค้ก หรือช็อคโกแล็ต อาหารเค็ม เช่น พิซซ่า หรือพวกถั่วอบเกลือ และจะทานมากกว่าปกติ อาจมีอาการเวียนศีรษะบ่อย อาการนี้เกิดจากการที่สารเซโรโทนินลดลง อย่างรวดเร็วในช่วงก่อนมีรอบเดือน ทำให้ต้องการคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายใช้ของหวานไปเพิ่มสารนี้ ควรควบคุมโภชนาการให้ถูกต้อง
์ขอขอบคุณข้อมูลจาก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น