1.น้ำมะนาวหรือน้ำส้ม
เครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรดอาจทำให้หลอดอาหารระคาย เคือง กระตุ้นเซลล์ประสาทให้รู้สึกอักเสบรุนแรงยิ่งขึ้น จนรู้สึกคล้ายกรดไหลย้อน (แต่ความจริงก็แค่ระคายเคือง) แถมปริมาณกรดมากมาย อาจทำให้เกิดปัญหาอื่น สมมติว่าคุณยังไม่ได้กินอะไร แต่ดื่มน้ำส้มไปแก้วใหญ่ ๆ ตอนเช้า กระเพาะอาหารที่ เต็มไปด้วยกรดอยู่แล้วก็จะได้รับกรดเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้น จำนวนที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะทำให้คุณปวดกระเพาะได้ ส่วนคนที่ชอบน้ำมะนาวแต่ใส่น้ำเชื่อมข้าวโพดเยอะ ๆ ก็ต้องระวังท้องร่วงด้วยนะ
2.ช็อกโกแลต
ส่วน ใหญ่แล้วปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพราะคุณกินช็อกโกแลต แต่เป็นเพราะว่าคุณกินมากเกินไปต่างหาก อย่างราวนี่หนึ่งชิ้นอาจเป็นของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดี แต่บราวนี่สามชิ้นหรือช็อกโกแลต ฟองดูนั้นอาจมากไปนิดนึง หากคุณเป็นโรคกรดไหลย้อน (GERD) ช็อกโกแลตอาจเป็นปัญหาสำหรับคุณได้แม้ในปริมาณนิดเดี ยว นี่เป็นเพราะช็อกโกแลตทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายออก กรดในกระเพาะก็จะไหลย้อนกลับขึ้นมาได้
3.บร็อกโคลี่ และกะหล่ำปลีดิบ
จริงอยู่ที่ผักเหล่านี้มีทั้งใยอาหารสารอาหาร และก็ดีต่อสุขภาพของคุณมาก ๆ แต่พวกมันก็อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะได้ ทางแก้นั้นง่ายมาก เพียงนำมาปรุงอาหารให้ผ่านความร้อนหรือแม้แต่ลวกเพียงเล็กน้อย ก็จะช่วยสลายสารซัลเฟอร์ที่ทำให้เกิดแก๊สได้แล้ว
4.มันบดและไอศกรีม
หน้า ตาเหมือนเป็นของย่อยง่าย แต่ถ้ากินเข้าไปแล้วรู้สึกกระเพาะปั่นป่วน เริ่มมีอาการท้องอืดมีแก๊สในกระเพาะเยอะ และเริ่มผายลมจนห้ามไม่ได้ นั่นล่ะคือสัญญาณบอกว่าร่างกายของคุณอาจแพ้แล็กโตส และต่อให้คุณปกติดี การกินไอศกรีมหรือมันบดที่มีครีมเยอะ ๆ ก็อาจเป็นปัญหาอยู่ดี เนื่องจากมันมีไขมันสูง และไขมันก็ย่อยยาก จึงอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าอาหารอื่น ๆ ไงคะ
5.นักเก็ตไก่
ทุกครั้งที่คุณคลุกอาหารเข้ากับแป้งแล้วนำไปทอด คุณได้เปลี่ยนอาหารชิ้น นั้นให้กลายเป็นของย่อยยากที่สุด โดยของทอดมักจะมันและมีไขมันสูง ซึ่งทำให้มันเป็นปัญหาสำหรับกระเพาะของเรา ยิ่งถ้าคุณมีโรคลำไส้อักเสบร่วมด้วย ของทอดมัน ๆ อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้คุณคลื่นเยน อาเจียน ดังนั้น สำหรับคนที่ชื่นชอบนักเก็ตจริง ๆ ลองหันมาอบนักเก็ตจะดีกว่าทอด แต่ถ้าจะให้ดีก็ใช้เนื้ออกไก่คลุกแป้งทำดีกว่าซื้อนั กเก็ตแช่แข็งมาทอดค่ะ
6.หัวหอมดิบ
หัว หอมและเพื่อนร่วมก๊วนอย่างกระเทียม ต้นหอม และ Shallot นั้นมีไฟโตนิวเทรียนต์ ซึ่งบางชนิดให้คุณแก่สุขภาพและดีต่อหัวใจของคุณ ส่วนบางชนิดจะทำให้ปวดท้อง จริงอยู่ที่หัวหอมที่ผ่านความร้อน แล้วอาจมีสารดังกล่าวน้อยลง แต่ในขณะเดียวกันความร้อนก็จะสลายสารอาหาร ทำให้คุณค่าของหัวหอมลดลง ถ้าให้ดีจึงควรกินหัวหอมดิบผสมกับหัวหอมที่ผ่านการปร ุงสุกแล้วจะดีกว่า
7.ถั่ว
เป็น ที่ทราบกันดีกว่าการกินถั่วมากจะทำให้ผายลม สาเหตุเนื่องมาจากเอนไซม์ที่ย่อยถั่วได้นั้น จะพบได้ในเฉพาะแบคทีเรีย ซึ่งมีชีวิตอยู่ในกระเพะอาหาร และถ้าคุณไม่กินถั่วเป็นประจำ คุณอาจมีเอนไซม์ไม่เพียงพอต่อการย่อยถั่ว ผลก็คือจะเกิดแก๊สแล้วท้องก็จะอืด ดังนั้น ก่อนกินถั่วก็ให้ผ่านความร้อนนาน ๆ หรือไม่ก็กินบ่อย ๆ จะได้มีเอนไซม์เตรียมไว้ย่อยถั่วค่ะ
8.หมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล
Sorbitol คือสารชนิดหนึ่งที่มักใช้เป็นส่วนประกอบในขนมหวานสูต รไม่มีน้ำตาล เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม มันอาจเป็นสาเหตุของแก๊สในกระเพาะอาหาร ดังนั้น ก่อนจะซื้อหมากฝรั่งมาเคี้ยวก็ลองพลิกฉลากมาดูก่อน หากมี Sorbital มากกว่า 10 กรัม นั่นก็แสดงว่ามันยากต่อการย่อยแน่ ๆ
เครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรดอาจทำให้หลอดอาหารระคาย เคือง กระตุ้นเซลล์ประสาทให้รู้สึกอักเสบรุนแรงยิ่งขึ้น จนรู้สึกคล้ายกรดไหลย้อน (แต่ความจริงก็แค่ระคายเคือง) แถมปริมาณกรดมากมาย อาจทำให้เกิดปัญหาอื่น สมมติว่าคุณยังไม่ได้กินอะไร แต่ดื่มน้ำส้มไปแก้วใหญ่ ๆ ตอนเช้า กระเพาะอาหารที่ เต็มไปด้วยกรดอยู่แล้วก็จะได้รับกรดเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้น จำนวนที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะทำให้คุณปวดกระเพาะได้ ส่วนคนที่ชอบน้ำมะนาวแต่ใส่น้ำเชื่อมข้าวโพดเยอะ ๆ ก็ต้องระวังท้องร่วงด้วยนะ
2.ช็อกโกแลต
ส่วน ใหญ่แล้วปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพราะคุณกินช็อกโกแลต แต่เป็นเพราะว่าคุณกินมากเกินไปต่างหาก อย่างราวนี่หนึ่งชิ้นอาจเป็นของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดี แต่บราวนี่สามชิ้นหรือช็อกโกแลต ฟองดูนั้นอาจมากไปนิดนึง หากคุณเป็นโรคกรดไหลย้อน (GERD) ช็อกโกแลตอาจเป็นปัญหาสำหรับคุณได้แม้ในปริมาณนิดเดี ยว นี่เป็นเพราะช็อกโกแลตทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายออก กรดในกระเพาะก็จะไหลย้อนกลับขึ้นมาได้
3.บร็อกโคลี่ และกะหล่ำปลีดิบ
จริงอยู่ที่ผักเหล่านี้มีทั้งใยอาหารสารอาหาร และก็ดีต่อสุขภาพของคุณมาก ๆ แต่พวกมันก็อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะได้ ทางแก้นั้นง่ายมาก เพียงนำมาปรุงอาหารให้ผ่านความร้อนหรือแม้แต่ลวกเพียงเล็กน้อย ก็จะช่วยสลายสารซัลเฟอร์ที่ทำให้เกิดแก๊สได้แล้ว
4.มันบดและไอศกรีม
หน้า ตาเหมือนเป็นของย่อยง่าย แต่ถ้ากินเข้าไปแล้วรู้สึกกระเพาะปั่นป่วน เริ่มมีอาการท้องอืดมีแก๊สในกระเพาะเยอะ และเริ่มผายลมจนห้ามไม่ได้ นั่นล่ะคือสัญญาณบอกว่าร่างกายของคุณอาจแพ้แล็กโตส และต่อให้คุณปกติดี การกินไอศกรีมหรือมันบดที่มีครีมเยอะ ๆ ก็อาจเป็นปัญหาอยู่ดี เนื่องจากมันมีไขมันสูง และไขมันก็ย่อยยาก จึงอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าอาหารอื่น ๆ ไงคะ
5.นักเก็ตไก่
ทุกครั้งที่คุณคลุกอาหารเข้ากับแป้งแล้วนำไปทอด คุณได้เปลี่ยนอาหารชิ้น นั้นให้กลายเป็นของย่อยยากที่สุด โดยของทอดมักจะมันและมีไขมันสูง ซึ่งทำให้มันเป็นปัญหาสำหรับกระเพาะของเรา ยิ่งถ้าคุณมีโรคลำไส้อักเสบร่วมด้วย ของทอดมัน ๆ อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้คุณคลื่นเยน อาเจียน ดังนั้น สำหรับคนที่ชื่นชอบนักเก็ตจริง ๆ ลองหันมาอบนักเก็ตจะดีกว่าทอด แต่ถ้าจะให้ดีก็ใช้เนื้ออกไก่คลุกแป้งทำดีกว่าซื้อนั กเก็ตแช่แข็งมาทอดค่ะ
6.หัวหอมดิบ
หัว หอมและเพื่อนร่วมก๊วนอย่างกระเทียม ต้นหอม และ Shallot นั้นมีไฟโตนิวเทรียนต์ ซึ่งบางชนิดให้คุณแก่สุขภาพและดีต่อหัวใจของคุณ ส่วนบางชนิดจะทำให้ปวดท้อง จริงอยู่ที่หัวหอมที่ผ่านความร้อน แล้วอาจมีสารดังกล่าวน้อยลง แต่ในขณะเดียวกันความร้อนก็จะสลายสารอาหาร ทำให้คุณค่าของหัวหอมลดลง ถ้าให้ดีจึงควรกินหัวหอมดิบผสมกับหัวหอมที่ผ่านการปร ุงสุกแล้วจะดีกว่า
7.ถั่ว
เป็น ที่ทราบกันดีกว่าการกินถั่วมากจะทำให้ผายลม สาเหตุเนื่องมาจากเอนไซม์ที่ย่อยถั่วได้นั้น จะพบได้ในเฉพาะแบคทีเรีย ซึ่งมีชีวิตอยู่ในกระเพะอาหาร และถ้าคุณไม่กินถั่วเป็นประจำ คุณอาจมีเอนไซม์ไม่เพียงพอต่อการย่อยถั่ว ผลก็คือจะเกิดแก๊สแล้วท้องก็จะอืด ดังนั้น ก่อนกินถั่วก็ให้ผ่านความร้อนนาน ๆ หรือไม่ก็กินบ่อย ๆ จะได้มีเอนไซม์เตรียมไว้ย่อยถั่วค่ะ
8.หมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล
Sorbitol คือสารชนิดหนึ่งที่มักใช้เป็นส่วนประกอบในขนมหวานสูต รไม่มีน้ำตาล เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม มันอาจเป็นสาเหตุของแก๊สในกระเพาะอาหาร ดังนั้น ก่อนจะซื้อหมากฝรั่งมาเคี้ยวก็ลองพลิกฉลากมาดูก่อน หากมี Sorbital มากกว่า 10 กรัม นั่นก็แสดงว่ามันยากต่อการย่อยแน่ ๆ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น