สีสู้ฝน
ในช่วงหน้าฝนหลาย ๆ ท่านคงรู้สึกสดชื่นกับอากาศที่เย็นสบาย และน่านอนเอามาก ๆ แต่อีกหลาย ๆ ท่าน ก็อาจกำลังปวดหัวอยู่กับ ปัญหาเรื่องสีของผนังบ้านที่มีคราบ หรืออาการผนังพอง ที่เกิดจากน้ำฝน และความชื้น ปัญหาเหล่านี้เกิดจากอะไร และจะรับมืออย่างไร เราลองมาดูกันดีกว่า
การเสื่อมสภาพของสีโดยทั่วไปมี 2 ลักษณะคือ
: หนึ่ง สีซีดจางเป็นรอยด่าง ซึ่งอาจเกิดขึ้นบริเวณไหนก็ได้ ทั้งภายในและภายนอก หรือ
: สอง สีหลุดร่อนกระเทาะไม่สามารถยึดเกาะพื้นผิวได้ โดยมักจะพบในบริเวณที่ต้องเผชิญกับแดด ลม และฝน ซึ่งมักเป็นภายนอกบ้าน เช่นผนังบ้านด้านทิศใต้ที่ฝนสาด และด้านข้างทิศตะวันตกที่แดดแรงในตอนบ่าย มีวิธีเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ ด้วยการป้องกันที่ถูกวิธีก่อนเกิดปัญหา
น้ำ คือตัวการสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้สีหลุดร่อน น้ำหรือความชื้นที่ขังอยู่ระหว่างสีและผิวของไม้หรือผนังทำให้สีหลุดร่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ทำความสะอาดผิวก่อนการทาสี ความชื้นอาจจะเข้าสู่เนื้อวัสดุได้ง่าย ความเสียหายภายหลังฝนจึงมักปรากฎอยู่เสมอ
การป้องกันและกำจัด ความชื้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยยืดอายุของสี อีกทั้งยังช่วยป้องกันการผุกร่อนของโครงสร้างอาคาร ถ้าไม่ใช่สาเหตุจากความชื้นภายนอกก็คงจะเป็นความชื้นจากภายในที่เราต้องดูแล ด้วยการระบายอากาศในบริเวณใต้ถุน ห้องครัว ห้องน้ำ และหมั่นตรวจเช็คท่อน้ำต่าง ๆ ไม่ให้รั่วซึม
แม้จะไม่มีน้ำ หรือความชื้น สีก็อาจหลุดร่อนได้ ถ้าการเตรียมพื้นผิวก่อนทาสีไม่สะอาดและสมบูรณ์ การทาสีบนพื้นผิวที่สกปรกมีฝุ่นผงหรือคราบไขมันอยู่ ทำให้สีเกาะติดน้อยลงหรือสูญเสียคุณสมบัติในการยึดติด พื้นผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ ปูน หรือเหล็ก จะต้องทำความสะอาดตามขั้นตอนก่อนทาสีใหม่เสมอ การทาสีทับกันหลาย ๆ ชั้นก็เกิดอาการหลุดร่อนได้ง่าย เหตุเพราะสีต่างชนิดกัน หรือพื้นผิวเดิมสกปรก
การเตรียมพื้นผิวที่ดีก่อนทาสีเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ทางที่ดีควรจะ
1. ขัดลอกเอาสีเก่าออกให้มากที่สุด
2. ทำการล้างพื้นผิวด้วยตัวทำละลายให้ทั่ว
3. ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทปราศจากฝุ่นผง
4. เริ่มต้นทาสีรองพื้นและทาสีทับหน้าตามขั้นตอน
สีที่ไม่มีการยืดหยุ่นมักจะแตกร้าวได้ง่าย สาเหตุทั้งจากน้ำและสภาวะแวดล้อมอื่น ๆ รอยแตกของสีมักแตกบนพื้นผิวที่มีการยืดหดตัวอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเป็นธรรมชาติของวัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่ ป้องกันดูแลรอยแตกร้าวของผนัง กันสาดและหลังคาอยู่เสมอ เลือกใช้สีให้ถูกชนิดกับพื้นผิวที่จะทา บางครั้งอาจจะต้องเลือกใช้สีที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูงเพื่อปกป้องรอยแตกลาย งาของผนัง อย่างสีนิปปอน ทรี-อิน-วัน เป็นต้น
ปกป้องบ้านที่คุณรัก ด้วยการทำความเข้าใจในธรรมชาติของวัสดุและคำนึงถึงสภาพอากาศท้องถิ่น โดยเฉพาะบ้านเราที่อากาศร้อนและมีความชื้นสูง มีฝนตกชุกเกือบตลอดปี ถ้าการออกแบบสิ่งก่อสร้าง วัสดุที่เลือกใช้ และเทคนิคการก่อสร้างที่กลมกลืนมีความเหมาะสมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สีของผนังหรือเปลือกภายนอกจะดูสวยงามมากพอๆกับที่ช่วยคุ้มครองโครงสร้าง อาคารให้อยู่ทนหลายสิบปีอย่างแน่นอน?..และในครั้งถัดไป เรายังมีเคล็ดลับการทาสีให้สวยนานมาฝากกันด้วย รับรองว่าไม่ยาก แต่ให้ผลที่น่าประทับใจทีเดียว ต้องติดตาม??..
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น