การลองฟังเพื่อเลือกชุดเครื่องเสียงให้ถูกใจ
นักเล่นหลายคนน่าจะเคยผิดพลาดในการลองฟังที่ส่งผลต่อการเลือกชุดอุปกรณ์เครื่องเสียง ทำให้ต้องปวดหัวเสียใจกับเครื่องเสียงที่ติดตั้งมา ว่าทำไมเสียงไม่เหมือนที่ลองฟัง มันมีข้อผิดพลาดตรงไหน อย่างไร บทความในคอลัมส์นี้ขอนำเสนอเกี่ยวกับการลองฟัง เพื่อเลือกเครื่องเสียงให้ตรงใจสักชุดครับ
นอกจากตำแหน่งการติดตั้งแล้ว ยังมีรายละเอียดเล็กน้อยที่จะทำให้เสียงที่ฟังในห้องลองก่อนซื้อ กับเสียงในรถยนต์ที่ได้หลังจากติดตั้งชุดเครื่อง มีคุณภาพและความไพเราะที่ต่างกัน
เริ่มแรกหาร้านเครื่องเสียงที่ชอบ ดูที่มีห้องลองฟังหรือมีการต่อสินค้าที่เราจะเลือกไว้ให้ลองฟัง จากนั้นตรงเข้าไปขอลองฟังโดยไม่ต้องเกรงใจ สมัยนี้ผู้บริโภคเป็นใหญ่ครับ อ๋อ! การไปลองฟังไม่ต้องพกเงินไป บัตรเครดิตก็ห้าม เพราะเดี๋ยวจะไปหลงคารมเซลล์ จะพาลผิดพลาดหลงทางออกทะเลครับ
ก่อนนั่งฟัง
ก่อนนั่งฟังให้สำรวจก่อนว่าภายในห้องฟังหรือสถานที่ฟังมีลักษณะเป็นอย่างไร กว้างลึกขนาดไหน ถ้ากว้างและลึกได้สัดส่วน เสียงก็จะกำลังพอดี แต่ถ้าห้องกว้างใหญ่หรือเป็นพื้นที่เปิด อันนี้จะฟังว่าฟร้อนท์ไฮเพาเวอร์ขับลำโพงไม่เต็มอิ่ม แต่จริงๆสภาพภายในรถแคบกว่านั้นมาก เพียงพละกำลังจากฟร้อนท์ก็จะสามารถขับลำโพงไม่กินวัตต์ได้ ให้ติดตั้งลองฟังก่อนแล้วจึงคิดเพิ่มเพาเวอร์แอมป์
ให้ดูต่อไปว่าห้องฟังก้องหรือเก็บเสียงขนาดไหน ถ้าห้องลองประกอบไปด้วยกระจกค่อนข้างมาก สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเสียงกลางสูงจะมากสักหน่อย เบสจะค่อนข้างบวมขาดโฟกัส แต่ถ้าห้องลองมีลักษณะดูดซับเสียงมากเกินไป เสียงจะออกไปทางแห้งทึบขาดบรรยากาศขาดความกังวาน เสียงทุ้มจะไม่ก้องมาก ได้โฟกัสของเสียงทุ้ม ควรพิจารณาในส่วนของห้องลองฟังก่อนที่จะลองฟังเครื่องเสียง
มาถึงตำแหน่งนั่งฟัง ตำแหน่งนั่งฟังควจะอยู่กลางห้องไม่เอียงไปทางซ้ายหรือขวาของตัวห้อง หรือไม่เอียงไปทางซ้ายและขวาของลำโพง นั่งให้มันตรงกลางว่างั้น! การนั่งลองฟังไม่ควรให้ศีรษะติดกำแพงด้านหลัง ห้ามนั่งพิงเบาะ เพราะเสียงทุ้มจะก้องบูม ปริมาณเสียงทุ้มจะมากเกินจริง ให้นั่งห่างจากพนังหลังสักหน่อยและไม่ควรพิงเบาะขณะนั่งฟังเพลง ถ้านั่งห่างจากพนังห้องด้านหลังสักหน่อย เสียงทุ้มจะน้อยลง เพราะในรถยนต์เราก็ไม่ได้นั่งชิดกระจกหลังนะครับ
ก่อนลองฟัง
ก่อนลองฟัง สำรวจดูเครื่องเสียงที่จะลองฟังว่ามีการต่อไว้อย่างไร มีอุปกรณ์เสริมช่วยคุณภาพเสียงหรือไม่ ถ้ามีแนะนำให้เอาออกครับ สายต่างๆในการลองฟังควรใช้สายธรรมดา เพราะถ้าใช้อุปกรณ์เสริมและสายคุณภาพดี เสียงย่อมดีขึ้นแน่ แต่ถ้าติดตั้งลงรถ เราอาจไม่ได้ใช้อุปกรณ์เสริมและสายเหล่านั้นนะครับ
สำรวจสักหน่อยว่า เครื่องเสียงที่จะลองฟังได้มีการปรับแต่งเสียงช่วยเอาไว้อย่างไรบ้าง ในการลองฟังครั้งแรก ควรตั้งค่าให้แฟลตที่สุด ไม่ต้องปรับแต่งอะไรทั้งสิ้น เพื่อฟังคุณภาพเสียงที่ไร้การเติมแต่ง ไม่เช่นนั้นอาจสับสนได้ระหว่างเสียงจริงๆที่เครื่องเสียงนั้นให้ได้ หรือเสียงที่ผ่านการปรุงแต่งเรียบร้อยแล้ว
แผ่นเพลงสำหรับใช้ลองฟัง อันนี้สำคัญมาก ควรเป็นแผ่นที่คุ้นเคย ฟังบ่อยท่องจนขึ้นใจ ควรทราบว่าแผ่นนั้นมีการบันทึกมาอย่างไร เสียงแห้งไหม แหลมจัดไปรึเปล่า เบสบวมหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเป็นแผ่นที่เขาเรียกกันว่า ออดิโอไฟล์ เพราะบางชุดเครื่องเสียงฟังแผ่นพวกนี้ไพเราะ แต่กับแผ่นบันทึกธรรมดากับฟังไม่ดีเอาเสียเลย ฉะนั้นควรเป็นแผ่นที่ฟังบ่อย ฟังประจำเป็นแนวเพลงที่ชอบ
เริ่มลองฟัง
ควรใช้เวลาในการลองฟังให้นานสักหน่อย เพราะเครื่องเสียงบางชุดฟังไพเราะในครั้งแรก ฟังไพเราะในบางแนวเพลง เรียกว่าสะดุดหูเมื่อแรกฟัง แต่ถ้าได้ฟังนานๆหรือหลายแนวเพลง อาจจะพบความรู้สึกที่ว่า ทำไมเสียงเหมือนกันหมดทุกแนวเพลง ลำโพงที่ดีควรให้รายละเอียดในเพลงช้า และควรให้ความฉับไวในเพลงเร็ว ควรฟังเพลงหลายแผ่นหลายแนว เพื่อให้ทราบถึงบุคลิกเสียงที่ชุดเครื่องเสียงนั้นสามารถตอบสนองได้ ไม่ควรอย่างยิ่งในการลองฟังเพียงไม่ถึงเพลง หรือเชื่อคำแนะนำจากเซลล์มากเกินไป สำคัญที่สุดเครื่องเสียงที่จะลองฟังควรผ่านการใช้งานมาสักหน่อย ถ้าเป็นของใหม่แกะกล่อง ควรเปิดทิ้งไว้ให้เครื่องร้อนสักพัก ก่อนการลองฟัง เพราะเครื่องเสียงที่ผ่านการใช้งานจะให้เสียงที่ต่างจากของใหม่แกะกล่องครับ
ลองฟังฟร้อนท์ ก่อนลองฟังอยากฝากให้พิจารณาว่า ฟร้อนท์ที่มีแสงสว่างจอสวย นอกจากคุณภาพเสียงจะติดไปทางขาดเนื้อเสียงแล้วยังรบกวนสมาธิในการขับรถยามค่ำคืนอีกนะครับ ถ้าลองฟังฟร้อนท์ในรุ่นแพงพบว่าคุณภาพเสียงไฮเพาเวอร์ไม่ต่างจากรุ่นเล็กมากก็ขอให้ลองฟังภาคปรีเอ้าท์โดยต่อร่วมใช้งานกับเพาเวอร์แอมป์ครับ จะเห็นคุณค่าที่เพิ่มพูน เพราะฟร้อนท์ที่ดีจะมีภาคปรีเอ้าท์ที่ดี สำหรับต่อกับเพาเวอร์แอมป์ภายนอก ไม่ควรลองฟังด้วยฟร้อนท์เพียงเครื่องเดียว หาฟร้อนท์ที่ราคาสูสีกันมาร่วมฟังเปรียบเทียบ สลับไปมาโดยคงเพาเวอร์แอมป์และลำโพงไว้ ท่านผู้อ่านก็จะทราบถึงน้ำเสียงที่ฟร้อนท์แต่ละตัวมีให้
ถ้าลองฟังพบว่าเสียงขาดรายละเอียด หรือเสียงแข็งกระด้าง ขาดการแยกน้ำหนักเสียงที่ดี ทุ้มออกอาการจมๆ ไม่มีเรี่ยวแรง อันนี้แนะนำว่าควรเบิร์นอินหรือเปิดฟร้อนท์ต่อให้เครื่องร้อนอีกสักหน่อย
ลองฟังเพาเวอร์แอมป์ ก่อนฟังลองเดินไปสำรวจดูว่า สายไฟ สายสัญญาณ สายลำโพง ยึดแน่นหนาดีหรือไม่ ถ้าสายไฟยึดติดไม่แน่นจะส่งผลถึงพละกำลัง สายสัญญาณส่งผลต่อเสียงรบกวน การขันสายลำโพงก็มีผลต่อพละกำลังน้ำหนักเสียง สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่ตรวจดูเสียก่อน จะพาลว่าเพาเวอร์แอมป์เครื่องนั้นเสียงไม่ดีเอานะครับ ต่อมาก็ควรดูว่าฟังก์ชั่นการปรับแต่งอยู่ที่ตำแหน่งแฟลตรึยัง เพาเวอร์แอมป์ทำงานแบบฟูลเล้นจ์หรือเปล่า สำรวจตรวจตราให้ดีก่อนลองฟัง เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของเพาเวอร์แอมป์
หากฟังแล้วพบว่าเพาเวอร์แอมป์เสียงแห้งบางขาดเนื้อเสียง เสียงพุ่งมาหาจุดนั่งฟัง ขาดเสียงตื้นลึกเป็นลำดับชั้น อย่าด่วนคิดไปว่าเพาเวอร์เครื่องนั้นไม่ดีนะครับ ให้ลองไปปรับลด GAIN ลงสักหน่อย แล้วฟังใหม่ ถ้าเพาเวอร์แอมป์ดีจริง เสียงจะดีขึ้น แต่ถ้าลองฟังแล้วพบว่า เสียงขาดพละกำลัง เสียงขาดน้ำหนัก ไม่เปิดโปร่ง ไม่มีแรงเอาเสียเลย เร่งที่ฟร้อนท์จนเกือบสุดแล้วก็ไม่ดัง ลองไปปรับเพิ่ม GAIN หากเป็นเพาเวอร์แอมป์ที่มีคุณภาพดี เสียงจะมีพลังขึ้นทันตาเห็นครับ ลองสลับเปลี่ยนฟร้อท์และลำโพง ท่านผู้อ่านก็จะทราบว่ามีน้ำเสียงบางอย่างที่คงอยู่แม้ชุดเครื่องเสียงเปลี่ยนไป นั่นคือน้ำเสียงของเพาเวอร์แอมป์ครับ
ลองฟังลำโพง ลำโพงชุดไหนที่จะลองฟังหรือหมายตาเอาไว้ ลองสำรวจดูว่ามีการขันน๊อตยึดติดแน่นหนาหรือไม่ จำนวนน๊อตที่ยึดลำโพงทั้ง 2 ข้างเท่ากันหรือไม่ เพราะหากยึดไม่แน่นหรือจำนวนน๊อตไม่เท่ากันก็จะส่งผลถึงคุณภาพและปริมาณเสียงทุ้ม ขาดน้ำหนักเสียง ขาดแรงปะทะเอาง่ายๆครับ ลำโพงที่จะฟังควรติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไป และไม่ควรมีระยะห่างระหว่างซ้ายและขวามากเกินไปเช่นกัน ถ้าจะลองฟังลำโพงเปรียบเทียบลำโพงมากกว่า 1 คู่ ลำโพงเหล่านั้นควรวางในตำแหน่งใกล้กัน เพื่อไม่ให้ได้เปรียบในเรื่องตำแหน่งติดตั้ง
ลองฟังลำโพงแล้วพบว่าเสียงทึบ ขาดความโปร่งใส เสียงไม่มีบรรยากาศ อย่าด่วนตัดสินว่าลำโพงไม่ดีนะครับ เพราะลำโพงคู่นั้นอาจต้องการพลังจากเพาเวอร์แอมป์ที่มากสักหน่อย เพราะมีการออกแบบพาสซีฟครอสโอเวอร์ที่ซับซ้อน ถ้าเพาเวอร์แอมป์กำลังไม่ดี เสียงจะออกมาแต่ทุ้มอวบๆใหญ่ๆ เสียงกลางและเสียงแหลมไม่มีเอาเสียเลย
ลองฟังลำโพงแล้วพบว่า เสียงจัดจ้าน เสียงแหลมคมกริบ อันนี้ลองสำรวจดูว่าระดับความดังของเสียงแหลมต่อไว้อย่างไร ลำโพงบางรุ่นต้องการใช้พาสซีฟครอสโอเวอร์ควบคุมระดับความดังของเสียงแหลม เพื่อให้ได้ปริมาณที่สมดุล หรือได้ตามใจท่านผู้อ่าน
อย่าตัดสินคุณภาพของลำโพงจากการลองเพียงชุดเดียว ลองเปลี่ยนฟร้อนท์ขับ เพิ่มเพาเวอร์แอมป์เข้าไป ดูความเหมาะสมของชุดที่ใช้ รวมถึงคุณภาพเสียงที่พัฒนาขึ้นหากระบบใหญ่หรือมีการเพิ่มอุปกรณ์ ให้ลองฟังว่าจะมีคุณภาพเพิ่มขึ้นตามอุปกรณ์ที่ร่วมใช้งานหรือไม่
การลองฟังเครื่องเสียงเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการตัดสินใจ ควรพิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนของการฟัง เพราะเมื่อท่านตัดสินใจเลือกซื้อไปแล้ว เกิดข้อผิดพลาดจะทำให้เสียเงินเสียทองไปกันใหญ่ งบจะบานปลายไม่จบสิ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ลองฟังด้วยตัวท่านเอง เชื่อในหูและความชอบของตัวท่านเองครับ
นอกจากตำแหน่งการติดตั้งแล้ว ยังมีรายละเอียดเล็กน้อยที่จะทำให้เสียงที่ฟังในห้องลองก่อนซื้อ กับเสียงในรถยนต์ที่ได้หลังจากติดตั้งชุดเครื่อง มีคุณภาพและความไพเราะที่ต่างกัน
เริ่มแรกหาร้านเครื่องเสียงที่ชอบ ดูที่มีห้องลองฟังหรือมีการต่อสินค้าที่เราจะเลือกไว้ให้ลองฟัง จากนั้นตรงเข้าไปขอลองฟังโดยไม่ต้องเกรงใจ สมัยนี้ผู้บริโภคเป็นใหญ่ครับ อ๋อ! การไปลองฟังไม่ต้องพกเงินไป บัตรเครดิตก็ห้าม เพราะเดี๋ยวจะไปหลงคารมเซลล์ จะพาลผิดพลาดหลงทางออกทะเลครับ
ก่อนนั่งฟัง
ก่อนนั่งฟังให้สำรวจก่อนว่าภายในห้องฟังหรือสถานที่ฟังมีลักษณะเป็นอย่างไร กว้างลึกขนาดไหน ถ้ากว้างและลึกได้สัดส่วน เสียงก็จะกำลังพอดี แต่ถ้าห้องกว้างใหญ่หรือเป็นพื้นที่เปิด อันนี้จะฟังว่าฟร้อนท์ไฮเพาเวอร์ขับลำโพงไม่เต็มอิ่ม แต่จริงๆสภาพภายในรถแคบกว่านั้นมาก เพียงพละกำลังจากฟร้อนท์ก็จะสามารถขับลำโพงไม่กินวัตต์ได้ ให้ติดตั้งลองฟังก่อนแล้วจึงคิดเพิ่มเพาเวอร์แอมป์
ให้ดูต่อไปว่าห้องฟังก้องหรือเก็บเสียงขนาดไหน ถ้าห้องลองประกอบไปด้วยกระจกค่อนข้างมาก สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเสียงกลางสูงจะมากสักหน่อย เบสจะค่อนข้างบวมขาดโฟกัส แต่ถ้าห้องลองมีลักษณะดูดซับเสียงมากเกินไป เสียงจะออกไปทางแห้งทึบขาดบรรยากาศขาดความกังวาน เสียงทุ้มจะไม่ก้องมาก ได้โฟกัสของเสียงทุ้ม ควรพิจารณาในส่วนของห้องลองฟังก่อนที่จะลองฟังเครื่องเสียง
มาถึงตำแหน่งนั่งฟัง ตำแหน่งนั่งฟังควจะอยู่กลางห้องไม่เอียงไปทางซ้ายหรือขวาของตัวห้อง หรือไม่เอียงไปทางซ้ายและขวาของลำโพง นั่งให้มันตรงกลางว่างั้น! การนั่งลองฟังไม่ควรให้ศีรษะติดกำแพงด้านหลัง ห้ามนั่งพิงเบาะ เพราะเสียงทุ้มจะก้องบูม ปริมาณเสียงทุ้มจะมากเกินจริง ให้นั่งห่างจากพนังหลังสักหน่อยและไม่ควรพิงเบาะขณะนั่งฟังเพลง ถ้านั่งห่างจากพนังห้องด้านหลังสักหน่อย เสียงทุ้มจะน้อยลง เพราะในรถยนต์เราก็ไม่ได้นั่งชิดกระจกหลังนะครับ
ก่อนลองฟัง
ก่อนลองฟัง สำรวจดูเครื่องเสียงที่จะลองฟังว่ามีการต่อไว้อย่างไร มีอุปกรณ์เสริมช่วยคุณภาพเสียงหรือไม่ ถ้ามีแนะนำให้เอาออกครับ สายต่างๆในการลองฟังควรใช้สายธรรมดา เพราะถ้าใช้อุปกรณ์เสริมและสายคุณภาพดี เสียงย่อมดีขึ้นแน่ แต่ถ้าติดตั้งลงรถ เราอาจไม่ได้ใช้อุปกรณ์เสริมและสายเหล่านั้นนะครับ
สำรวจสักหน่อยว่า เครื่องเสียงที่จะลองฟังได้มีการปรับแต่งเสียงช่วยเอาไว้อย่างไรบ้าง ในการลองฟังครั้งแรก ควรตั้งค่าให้แฟลตที่สุด ไม่ต้องปรับแต่งอะไรทั้งสิ้น เพื่อฟังคุณภาพเสียงที่ไร้การเติมแต่ง ไม่เช่นนั้นอาจสับสนได้ระหว่างเสียงจริงๆที่เครื่องเสียงนั้นให้ได้ หรือเสียงที่ผ่านการปรุงแต่งเรียบร้อยแล้ว
แผ่นเพลงสำหรับใช้ลองฟัง อันนี้สำคัญมาก ควรเป็นแผ่นที่คุ้นเคย ฟังบ่อยท่องจนขึ้นใจ ควรทราบว่าแผ่นนั้นมีการบันทึกมาอย่างไร เสียงแห้งไหม แหลมจัดไปรึเปล่า เบสบวมหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเป็นแผ่นที่เขาเรียกกันว่า ออดิโอไฟล์ เพราะบางชุดเครื่องเสียงฟังแผ่นพวกนี้ไพเราะ แต่กับแผ่นบันทึกธรรมดากับฟังไม่ดีเอาเสียเลย ฉะนั้นควรเป็นแผ่นที่ฟังบ่อย ฟังประจำเป็นแนวเพลงที่ชอบ
เริ่มลองฟัง
ควรใช้เวลาในการลองฟังให้นานสักหน่อย เพราะเครื่องเสียงบางชุดฟังไพเราะในครั้งแรก ฟังไพเราะในบางแนวเพลง เรียกว่าสะดุดหูเมื่อแรกฟัง แต่ถ้าได้ฟังนานๆหรือหลายแนวเพลง อาจจะพบความรู้สึกที่ว่า ทำไมเสียงเหมือนกันหมดทุกแนวเพลง ลำโพงที่ดีควรให้รายละเอียดในเพลงช้า และควรให้ความฉับไวในเพลงเร็ว ควรฟังเพลงหลายแผ่นหลายแนว เพื่อให้ทราบถึงบุคลิกเสียงที่ชุดเครื่องเสียงนั้นสามารถตอบสนองได้ ไม่ควรอย่างยิ่งในการลองฟังเพียงไม่ถึงเพลง หรือเชื่อคำแนะนำจากเซลล์มากเกินไป สำคัญที่สุดเครื่องเสียงที่จะลองฟังควรผ่านการใช้งานมาสักหน่อย ถ้าเป็นของใหม่แกะกล่อง ควรเปิดทิ้งไว้ให้เครื่องร้อนสักพัก ก่อนการลองฟัง เพราะเครื่องเสียงที่ผ่านการใช้งานจะให้เสียงที่ต่างจากของใหม่แกะกล่องครับ
ลองฟังฟร้อนท์ ก่อนลองฟังอยากฝากให้พิจารณาว่า ฟร้อนท์ที่มีแสงสว่างจอสวย นอกจากคุณภาพเสียงจะติดไปทางขาดเนื้อเสียงแล้วยังรบกวนสมาธิในการขับรถยามค่ำคืนอีกนะครับ ถ้าลองฟังฟร้อนท์ในรุ่นแพงพบว่าคุณภาพเสียงไฮเพาเวอร์ไม่ต่างจากรุ่นเล็กมากก็ขอให้ลองฟังภาคปรีเอ้าท์โดยต่อร่วมใช้งานกับเพาเวอร์แอมป์ครับ จะเห็นคุณค่าที่เพิ่มพูน เพราะฟร้อนท์ที่ดีจะมีภาคปรีเอ้าท์ที่ดี สำหรับต่อกับเพาเวอร์แอมป์ภายนอก ไม่ควรลองฟังด้วยฟร้อนท์เพียงเครื่องเดียว หาฟร้อนท์ที่ราคาสูสีกันมาร่วมฟังเปรียบเทียบ สลับไปมาโดยคงเพาเวอร์แอมป์และลำโพงไว้ ท่านผู้อ่านก็จะทราบถึงน้ำเสียงที่ฟร้อนท์แต่ละตัวมีให้
ถ้าลองฟังพบว่าเสียงขาดรายละเอียด หรือเสียงแข็งกระด้าง ขาดการแยกน้ำหนักเสียงที่ดี ทุ้มออกอาการจมๆ ไม่มีเรี่ยวแรง อันนี้แนะนำว่าควรเบิร์นอินหรือเปิดฟร้อนท์ต่อให้เครื่องร้อนอีกสักหน่อย
ลองฟังเพาเวอร์แอมป์ ก่อนฟังลองเดินไปสำรวจดูว่า สายไฟ สายสัญญาณ สายลำโพง ยึดแน่นหนาดีหรือไม่ ถ้าสายไฟยึดติดไม่แน่นจะส่งผลถึงพละกำลัง สายสัญญาณส่งผลต่อเสียงรบกวน การขันสายลำโพงก็มีผลต่อพละกำลังน้ำหนักเสียง สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่ตรวจดูเสียก่อน จะพาลว่าเพาเวอร์แอมป์เครื่องนั้นเสียงไม่ดีเอานะครับ ต่อมาก็ควรดูว่าฟังก์ชั่นการปรับแต่งอยู่ที่ตำแหน่งแฟลตรึยัง เพาเวอร์แอมป์ทำงานแบบฟูลเล้นจ์หรือเปล่า สำรวจตรวจตราให้ดีก่อนลองฟัง เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของเพาเวอร์แอมป์
หากฟังแล้วพบว่าเพาเวอร์แอมป์เสียงแห้งบางขาดเนื้อเสียง เสียงพุ่งมาหาจุดนั่งฟัง ขาดเสียงตื้นลึกเป็นลำดับชั้น อย่าด่วนคิดไปว่าเพาเวอร์เครื่องนั้นไม่ดีนะครับ ให้ลองไปปรับลด GAIN ลงสักหน่อย แล้วฟังใหม่ ถ้าเพาเวอร์แอมป์ดีจริง เสียงจะดีขึ้น แต่ถ้าลองฟังแล้วพบว่า เสียงขาดพละกำลัง เสียงขาดน้ำหนัก ไม่เปิดโปร่ง ไม่มีแรงเอาเสียเลย เร่งที่ฟร้อนท์จนเกือบสุดแล้วก็ไม่ดัง ลองไปปรับเพิ่ม GAIN หากเป็นเพาเวอร์แอมป์ที่มีคุณภาพดี เสียงจะมีพลังขึ้นทันตาเห็นครับ ลองสลับเปลี่ยนฟร้อท์และลำโพง ท่านผู้อ่านก็จะทราบว่ามีน้ำเสียงบางอย่างที่คงอยู่แม้ชุดเครื่องเสียงเปลี่ยนไป นั่นคือน้ำเสียงของเพาเวอร์แอมป์ครับ
ลองฟังลำโพง ลำโพงชุดไหนที่จะลองฟังหรือหมายตาเอาไว้ ลองสำรวจดูว่ามีการขันน๊อตยึดติดแน่นหนาหรือไม่ จำนวนน๊อตที่ยึดลำโพงทั้ง 2 ข้างเท่ากันหรือไม่ เพราะหากยึดไม่แน่นหรือจำนวนน๊อตไม่เท่ากันก็จะส่งผลถึงคุณภาพและปริมาณเสียงทุ้ม ขาดน้ำหนักเสียง ขาดแรงปะทะเอาง่ายๆครับ ลำโพงที่จะฟังควรติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไป และไม่ควรมีระยะห่างระหว่างซ้ายและขวามากเกินไปเช่นกัน ถ้าจะลองฟังลำโพงเปรียบเทียบลำโพงมากกว่า 1 คู่ ลำโพงเหล่านั้นควรวางในตำแหน่งใกล้กัน เพื่อไม่ให้ได้เปรียบในเรื่องตำแหน่งติดตั้ง
ลองฟังลำโพงแล้วพบว่าเสียงทึบ ขาดความโปร่งใส เสียงไม่มีบรรยากาศ อย่าด่วนตัดสินว่าลำโพงไม่ดีนะครับ เพราะลำโพงคู่นั้นอาจต้องการพลังจากเพาเวอร์แอมป์ที่มากสักหน่อย เพราะมีการออกแบบพาสซีฟครอสโอเวอร์ที่ซับซ้อน ถ้าเพาเวอร์แอมป์กำลังไม่ดี เสียงจะออกมาแต่ทุ้มอวบๆใหญ่ๆ เสียงกลางและเสียงแหลมไม่มีเอาเสียเลย
ลองฟังลำโพงแล้วพบว่า เสียงจัดจ้าน เสียงแหลมคมกริบ อันนี้ลองสำรวจดูว่าระดับความดังของเสียงแหลมต่อไว้อย่างไร ลำโพงบางรุ่นต้องการใช้พาสซีฟครอสโอเวอร์ควบคุมระดับความดังของเสียงแหลม เพื่อให้ได้ปริมาณที่สมดุล หรือได้ตามใจท่านผู้อ่าน
อย่าตัดสินคุณภาพของลำโพงจากการลองเพียงชุดเดียว ลองเปลี่ยนฟร้อนท์ขับ เพิ่มเพาเวอร์แอมป์เข้าไป ดูความเหมาะสมของชุดที่ใช้ รวมถึงคุณภาพเสียงที่พัฒนาขึ้นหากระบบใหญ่หรือมีการเพิ่มอุปกรณ์ ให้ลองฟังว่าจะมีคุณภาพเพิ่มขึ้นตามอุปกรณ์ที่ร่วมใช้งานหรือไม่
การลองฟังเครื่องเสียงเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการตัดสินใจ ควรพิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนของการฟัง เพราะเมื่อท่านตัดสินใจเลือกซื้อไปแล้ว เกิดข้อผิดพลาดจะทำให้เสียเงินเสียทองไปกันใหญ่ งบจะบานปลายไม่จบสิ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ลองฟังด้วยตัวท่านเอง เชื่อในหูและความชอบของตัวท่านเองครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น