วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Modify ทำเพื่ออะไร? ทำอย่างไร? ทำไปทำไม!!!

Modify ทำเพื่ออะไร? ทำอย่างไร? ทำไปทำไม!!!

กระแสการโมดิฟายด์ในเครื่องเสียงรถยนต์บ้านเราขณะนี้กำลังเป็นที่นิยม  แต่โมดิฟายด์ผู้อ่านทุกท่านคงจะทราบแล้วว่าคือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง  แต่เขาโมดิฟายด์กันไปทำไม  เมื่อทำแล้วได้ผลเป็นอย่างไร  ผลที่ได้ดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับอะไร    สมควรแล้วหรือที่จะต้องโมดิฟายด์ 
คำถามเหล่านี้คงค้างคาใจผู้อ่านทุกท่าน  บทความในครั้งนี้ขอนำเสนอเกี่ยวกับการโมดิฟายด์  ต่อไปขออนุญาตเรียกสั้นๆว่า  “โมฯ”  ครับ
ทำไมต้องโมฯ  เครื่องเสียงเดิมมาจากโรงงานผู้ผลิต  ชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในที่ใช้ล้วนมีต้นทุนที่ส่งผลต่อราคาของผลิตภัณฑ์นั้นๆ  เมื่อมีราคาเข้ามาเกี่ยวข้อง  ผู้ผลิตแต่ละรายย่อมใช้อุปกรณ์ภายในที่มีคุณภาพแตกต่างกัน  เพื่อให้เหมาะสมกับราคาของผลิตภัณฑ์  เมื่อคุณภาพของอุปกรณ์ต่างกัน  คุณภาพเสียงที่ได้ก็จะแตกต่างกัน
เหตุที่ต้องโมฯอีกประการที่สำคัญคือ  ไม่มีเครื่องเสียงใดในโลกที่ให้เสียงได้ตรงใจเราครบ  100  เปอร์เซ็นต์  เมื่อเลือกเครื่องเสียงที่ถูกใจได้แล้ว  ส่วนใหญ่มักพบว่าน่าจะให้เสียงแหลมหวานกว่านี้หน่อย  ทุ้มอิ่มกว่านี้อีกนิด  กลางโปร่งอีกสักหน่อย  การโมฯจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เครื่องเสียงตอบสนองให้ได้ใกล้เคียงความต้องการของนักเล่นมากที่สุด
ประการสุดท้ายที่นักเล่นมักจะโมฯคือ  ฟังเครื่องเสียงชุดเดิมมานาน  จะเปลี่ยนใหม่ก็เสียงเงินเสียทองมากมาย  แถมเสียงดายของเก่าที่ยังใช้งานได้ดี  แต่อยากให้คุณภาพเสียงที่มีอยู่ในชุดเก่ามีคุณภาพเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  หรือประมาณว่าชินชากับเสียงเดิมๆ  อยากมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง  ก็ต้องโมฯละครับ
โมฯแล้วได้อะไร  ถ้าจะกล่าวแบบกำปั้นทุบดินก็คือ  อย่างน้อยสิ่งที่ตาเราเห็นก็คืออุปกรณ์ชิ้นส่วนมีคุณภาพดีขึ้น  จากสายธรรมดากลายเป็นสายทองแดงบริสุทธิ์  หรือเปลี่ยนเป็นสายเงินแท้ๆคุณภาพสูง  จากขั้วต่อที่ราคาไม่สูง  กลับกลายเป็นขั้วต่อมีชื่อมีราคา  นี่คือสิ่งที่มองเห็นได้  แต่สิ่งที่กล่าวไป  คงจะไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของนักเล่นต่อผลของการโมฯเป็นแน่
เสียงที่ได้ยินหลังจากการโมฯนั่นละครับคือคำตอบสำคัญว่า  โมฯแล้วได้อะไร  เชื่อว่าท่านผู้อ่านที่เคยลองโมฯหรือเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ด้วยตัวเองล้วนเคยตื่นเต้นกับเสียงแรกที่ได้ยิน  ว่าเสียงจะเปลี่ยนไปอย่างไร  ดีขึ้นขนาดไหน  หวานขึ้นอิ่มขึ้นมากไหม  ความเปลี่ยนแปลงจะเป็นอย่างไร  ขึ้นอยู่กับโมฯอย่างไรเป็นสำคัญครับ
โมฯอย่างไร  ส่วนใหญ่นักเล่นที่ลงมือทำกันเอง  ศึกษาหาความรู้มาพอสมควร  สิ่งแรกที่มักจะโมฯคือสายครับ  เปลี่ยนสายทั้งภายในและภายนอกให้มีคุณภาพดีขึ้นจากที่โรงงานผู้ผลิตให้มา  แค่นี้ก็ดีขึ้นตามคุณภาพสายเส้นใหม่ที่ใส่ลงไปแล้ว  ความสุขที่ได้จากการโมฯก็เกิดขึ้นแล้วครับ  ความสุขมักมาพร้อมกับกิเลสที่ว่า  แล้วถ้าโมฯให้มากกว่านี้จะทำอย่างไร  นักเล่นบางคนเล่นกันถึงขนาดค่าโมฯแพงกว่าค่าตัวเครื่องยังมีเลยละครับ
การโมฯที่ลงลึกไปอีกสักหน่อยคือ  เปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในกันเลยครับ  ขั้นต่อมาคือการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในให้มีคุณภาพดีขึ้น  ตั้งแต่คาปาซิเตอร์ธรรมดา  เปลี่ยนไปใช้คาปาซิเตอร์ราคาแพง  ระดับที่เรียกว่าถ้าผู้ผลิตใส่อุปกรณ์เหล่านี้มาให้  ราคาเครื่องเสียงชิ้นนั้นคงแพงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว  ผมเคยเห็นนักเล่นบางคนเปลี่ยนคาปาซิเตอร์จากเดิมหลักสิบเป็นหลักพันบาทยังมี  อันนี้ว่ากันแล้วแต่ความชอบ  จากนั้นก็เปลี่ยนคุณภาพตัวต้านทาน  ขดลวด  ขั้วต่อต่างๆให้มีคุณภาพดีขึ้น  จะดีขึ้นอย่างไร  ขึ้นอยู่กับวัสดุและความเข้ากันได้ทางเสียงด้วยนะครับ  เช่น  วัสดุที่ทำจากทองส่วนใหญ่ให้เสียงทุ้มมีเนื้อเสียงที่อิ่มแน่น  วัสดุที่ทำจากโรเดี่ยมส่วนใหญ่มักให้เสียงทุ้มที่กระชับ  เสียงแหลมสดใส  อันนี้ว่ากันคร่าวๆนะครับ  ทีนี้ลองมาดูกันว่าอุปกรณ์แต่ละชิ้น  ส่วนใหญ่เขาโมฯอย่างไรกันบ้าง
ฟร้อน์  อุปกรณ์ชิ้นนี้ส่วนใหญ่จะโมฯกันที่สายด้านหลังเครื่อง  เพราะสายที่ให้มาจากโรงงานมีคุณภาพระดับหนึ่ง  เมื่อเปลี่ยนสายใหม่ก็เลือกได้ตามใจว่าจะใส่สายที่ทำจากวัสดุอะไร  เพื่อให้เกิดเสียงเป็นอย่างไร เชนสายเงินแท้ให้รายละเอียดเสียงแหลมที่ดี  มีความหวาน  สายทองแดงบริสุทธิ์มีเนื้อเสียงทุ้มที่เข้มข้น  ต่อมาคือขั้วแจ็คแบบอาร์ซีเอ  ขั้วประเภทนี้ทางผู้ผลิตมักไม่ให้ความสำคัญมากนัก  ส่วนใหญ่เป็นนิเกิ้ลธรรมดา  นักเล่นบางคนอาจจะเปลี่ยนใส่ขั้วอาร์ซีเอคุณภาพสูง  เช่น  WBT  ที่ผลิตด้วยทองแดงคุณภาพสูงเคลือบด้วยทองคำ  24  เค  แน่นอนครับว่าสวยงามขึ้นและทนทานขึ้น  เนื่องจากอ๊อกไซค์หรือคราบสนิมในขั้วคุณภาพสูงนั้นเกิดได้ยาก  แล้วคุณภาพเสียงจะเปลี่ยนไปอย่างไร  ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิกของผู้โมฯแต่ละสำนักเป็นสำคัญ
เพาเวอร์แอมป์  ส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนคุณภาพสายภายในให้ดีขึ้น  เปลี่ยนขั้วต่อกันนิดหน่อยเอาเป็นพิธี  แต่สำหรับนักเล่นบางคนหรือสำนักโมฯบางเจ้า  ก็บัดกรีเปลี่ยนคุณภาพอุปกรณ์ภายในกันเลยทีเดียว  เปลี่ยนทั้งคาปาซิเตอร์ในภาคจ่ายไฟ  ภาคกรองไฟ  รวมถึงคาปาซิเตอร์สำหรับความถี่สูงในวงจร  เรียกว่าอันไหนดี  อันไหนเหมาะสม  เปลี่ยนกันให้หมด  ผมทราบมาว่านักเล่นบางคนถึงกับเปลี่ยนทรานซิสเตอร์ภาคขยายให้กับเพาเวอร์แอมป์  ยี่ห้อไหนคุณภาพดี  ผลิตจากผู้ผลิตที่ชื่อเสียงไว้ใจได้  เปลี่ยนใหม่ลงไปเลยครับ  เสียงเป็นอย่างไรว่ากันทีหลัง  ขอให้ได้เปลี่ยน  ให้ได้โมฯก็สบายหัวใจไปเกินครึ่ง
ลำโพง  มาถึงอุปกรณ์ที่โมฯกันมาก  โมฯกันบ่อย  ที่ไหนๆก็โมฯกันแต่ลำโพง  เพราะเป็นอุปกรณ์เครื่องเสียงที่เห็นเด่นชัดที่สุด  ไม่ใช่โมฯแล้วเสียงเปลี่ยนดีที่สุดนะครับ  ตามองเห็นชัดสุดต่างหาก  การโมฯลำโพงก็เริ่มจากเปลี่ยนคุณภาพตัวคาปาซิเตอร์ภายในวงจรพาสซีฟครอสโอเวอร์  อยากให้เสียงอิ่มหวานก็อาจใช้ตัวคาปาซิเตอร์แบบน้ำมัน  หรือเปลี่ยนคุณภาพขดลวดหรือคอยล์  นักเล่นบางคนเปลี่ยนไปใช้คอยล์แบนจากผู้ผลิตที่มีชื่อ  เพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพเสียงที่เปลี่ยนไป  หรือเปลี่ยนตัวต้านทานที่สามารถทนกำลังวัตต์ได้สูงกว่า  เมื่อทนวัตต์สูงก็เกิดความร้อนน้อย  ความเพี้ยนก็น้อยตามมา  นี่กล่าวกันถึงการโมฯแบบทั่วๆไปไม่ได้เจาะลึกระดับเปลี่ยนค่าของตัวอุปกรณ์ให้เปลี่ยนไปจากเดิมนะครับ  โมฯอย่างนั้นต้องมีความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ที่มากขึ้นไปอีกระดับ  
กล่าวถึงการโมฯในคอลัมน์นี้ก็เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ทราบถึงหลักการ  ที่มาที่ไปของการโมฯ  เพื่อเป็นแนวทางให้ทราบถึงการโมฯในวงการเครื่องเสียงรถยนต์ครับผม
 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น