ไข้ไทฟอยด์
เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ ซาลมอเนลล่า ไทฟี่ (Salmonella typhi)
โดยร่างกายจะได้รับเชื้อไทฟอยด์ทางการกิน ซึ่งเชื้อจะผ่านเข้าสู่ลำไส้เล็ก แล้วเข้าไปยังต่อมน้ำเหลืองที่ลำไส้เล็ก หลังจากนั้นภายในเวลา 1 ถึง 4 สัปดาห์ แบคทีเรียจะกระจายเข้าไปในกระแสเลือดทำให้เกิดอาการป่วยขึ้น
อาการ
ไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยอาการจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ บางรายอาจมีอาการปวดท้องทั่ว ๆ ไป คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายอุจจาระเหลว ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ผู้ป่วยอาจมีไข้สูงได้นานอาจถึง 1 หรือ 2 เดือน
น้อยรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงซึ่งพบได้น้อยกว่า 5 เปอร์เซนต์ คือจะมีเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือมีปัญหาลำไส้ทะลุได้
การวินิจฉัย
แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคนี้จากประวัติและการตรวจร่างกาย ร่วมกับการตรวจเลือด หาร่องรอยของเชื้อนี้ได้ทางห้องปฏิบัติการ และอาจพบเชื้อนี้ได้จากการเพาะเชื้อจากตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ หรืออุจจาระ ของผู้ป่วย
การรักษา
การรักษาทำได้โดยการใช้ยาปฏิชีวนะซึ่งมีทั้งชนิดรับประทานและชนิดฉีด นานประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยจะตอบสนองต่อการรักษาได้ผลดี
การป้องกัน
ดื่มน้ำสะอาดและรับประทานอาหารที่ปรุงสุกสะอาด และรักษาสุขอนามัยในการรับประทานอาหาร
โดย นพ.พรเทพ วรวงศ์ประภา อายุรแพทย์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น