วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เด็กสมาธิสั้นและมีภาวะไม่อยู่นิ่ง (Attention Deficit Hyperactive Disorder)

เด็กสมาธิสั้นและมีภาวะไม่อยู่นิ่ง (Attention Deficit Hyperactive Disorder)
เด็กสมาธิสั้นและมีภาวะไม่อยู่นิ่งเป็นอย่างไร?
เด็กสมาธิสั้นและมีภาวะไม่อยู่นิ่ง (Attention Deficit Hyperactive Disorder) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ADHD เป็นคำที่ใช้ในปัจจุบันโดยสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (American Psychiatric Association) เรียกเด็กที่มีปัญหาในเรื่องสมาธิและอารมณ์ซึ่งมีผลกระทบต่อการเรียน การทำกิจกรรมและสังคม โดยเด็กจะมีอาการ ดังนี้

1. สมาธิสั้น (Inattention)

 ไม่ใส่ใจในรายละเอียดเวลาทำงานหรือเรียน หรือการทำกิจกรรมต่างๆ มักทำผิดบ่อยๆ ไม่ค่อยระวัง เลินเล่อ
 ไม่สามารถเล่นหรือทำกิจกรรมได้นาน ยกเว้นกิจกรรมที่ชอบมากๆ เช่น ดูวิดีโอ
 ทำงานไม่เสร็จ ผลงานไม่เรียบร้อย ตกๆ หล่นๆ
 ไม่ฟังเวลาคนอื่นพูดด้วย และเก็บรายละเอียดไม่ได้
 ขี้ลืม ทำของหายบ่อย เช่น ดินสอ ตุ๊กตา สมุด
 วอกแวกตามสิ่งเร้าภายนอกง่าย

2. ซน ไม่อยู่นิ่ง (Hyperactivity)

 ซนยุกยิก อยู่ไม่สุข
 นั่งนิ่งๆ ไม่ได้ ต้องลุกเดินหรือขยับตัวไปมา
 ชอบปีนป่าย
 เล่นเสียงดัง เล่นผาดโผน หรือทำกิจกรรมเสี่ยงอันตราย
 พูดคุยตลอด พูดไม่หยุด

3. หุนหันพลันแล่น (Impulsivity)

 วู่วาม ใจร้อน ตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยไม่ได้คิด
 ขาดความระมัดระวัง เช่น ข้ามถนนโดยไม่ดูรถ
 รอคอยไม่ได้
 พูดโพล่ง มักตอบคำถามโดยที่ฟังยังไม่ทันจบ
 พูดแทรกในเวลาที่ผู้อื่นพูดคุยกัน
 แย่งของเล่นจากเด็กคนอื่น เมื่อไม่พอใจอาจจะทำลายของเล่นนั้น

อาการข้างต้นจะต้องพบมากกว่า 1 สถานการณ์ เช่น พบทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน และต้องมีผลขัดขวางการเรียน การคบเพื่อนจนทำให้เกิดปัญหา
สาเหตุ

1. พันธุกรรม เป็นสาเหตุของโรคที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะพบว่าเด็กที่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่าเด็กอื่นๆ ถึง 4 เท่า
2. มีปัญหาทางสมองมาก่อน เช่น เคยเป็นไข้สมองอักเสบ มีอุบัติเหตุทางสมอง โรคลมชัก ฯลฯ
3. หาสาเหตุไม่ได้แน่ชัด จากการศึกษาพบว่าเด็กกลุ่มนี้มีความผิดปกติของสมองส่วนหน้า (Frontal Lobes) ทำให้เด็กมีความผิดปกติในการหยุดยั้งหรือควบคุมตนเอง
การรักษา

แนวทางการรักษาโรคสมาธิสั้น ประกอบด้วยวิธีการมากมายและแต่ละวิธีการจะมีประโยชน์ มีความสำคัญไปคนละอย่าง เมื่อมาเสริมรวมกันจะส่งผลทำให้เด็กถูกพัฒนาขึ้นได้เต็มศักยภาพ แนวทางการรักษาประกอบด้วย
1. การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเด็กที่เป็นสมาธิสั้นแก่พ่อแม่และบุคคลที่อยู่ใกล้ชิด ให้โอกาสพ่อแม่เข้าใจตนเอง รวมทั้งเทคนิคในการฝึกฝนเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถของเด็ก
2. การใช้ยา
3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ขัดขวางพัฒนาการทุกด้าน
4. ความช่วยเหลือด้านการเรียน

อาการสมาธิสั้นไม่สามารถหายเองได้ หากพบว่าเด็กมีอาการสมาธิสั้น ควรพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา ซึ่งเด็กสมาธิสั้นส่วนใหญ่จะมีสติปัญญาปกติ หากได้รับการรักษาและส่งเสริมที่ดี ก็จะทำให้เด็กมีอนาคตที่ดีได้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น