เมื่อรถสตาร์ทไม่ติด แบตเตอรี่ไม่มีไฟจะทำอย่างไร ?
ปัญหาฉุกเฉินอีกอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้รถมักจะประสบอยู่บ่อยๆ ก็คือ แบตเตอรี่ไฟหมด สาเหตุอาจ เกิดขึ้นได้หลายประการ เช่น
เปิดไฟแสงสว่างทิ้งไว้เป็นเวลานาน
ใช้รถเป็นระยะทางสั้น ๆ หรือจอดทิ้งไว้นานเกินไปจนไฟชาร์จไม่เพียงพอ
แบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพ หรือชำรุด
ใช้มอเตอร์สตาร์ทมากเกินไปจนแบตเตอรี่ถูกจ่ายไฟออกจนหมด
วิธีการพ่วงแบตเตอรี่จะปฎิบัติอย่างไร?
1. เปิดฝากระโปรงรถขึ้นแล้วตรวจดูสภาพภายนอกของแบตเตอรี่ว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ
2. ปิดสวิตซ์อุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด เช่นเครื่องปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง ไฟแสงสว่างและเสื่อนคันเกียร์ไปตำแหน่งเกียร์ว่าง หรือ (N) หรือ (P) แล้วใส่เบรคมือ
3.คีบสายพ่วงแบตเตอรี่ข้างหนึ่ง(สายพ่วงสีแดง) ลงที่ขั้วบวกของแบตเตอรี่ที่นำมาพ่วงแล้วคีบปลายสายอีกข้างหนึ่ง(สายพ่วงสีแดง)ไว้กับขั้วบวกของแบตเตอรี่ในรถคันที่ไม่มีไฟ
4.คีบสายพ่วงแบตเตอรี่ข้างหนึ่ง (สายพ่วงสีดำ) ลงที่ขั้วลบ ของแบตเตอรี่ที่นำมาพ่วงแล้วคีบปลายสายอีกข้างหนึ่ง(สายพ่วงสีดำ)ไว้กับขั้วลบ ของแบตเตอรี่ในรถคันที่ไม่มีไฟ
ข้อสังเกต : ขั้วแบตเตอรี่ที่เป็นขั้วบวกจะมีฝาครอบพลาสติกหรือยางสีแดงหุ้มไว้ และขนาดของขั้วแบตเตอรี่ขั้วบวกจะมีขนาดใหญ่กว่าขั้วลบ
ข้อสังเกต : สายพ่วงแบตเตอรี่ควรจะเป็นสายไฟที่มีขนาดใหญ่ ถ้าสายพ่วงแบตเตอรี่เล็กอาจทำให้สตาร์ทไม่ติดได้
5. สตาร์ทเครื่องยนต์ของรถที่นำมาพ่วงแล้วเร่งเครื่องค้างไว้
6. สตาร์ทรถของท่าน ถ้ามอเตอร์ยังทำงานช้าอยู่ให้ตรวจสายพ่วงว่าจุดต่อแน่นในลักษณะโลหะสัมผัสกับโลหะดีหรือไม่ ?
7. เมื่อเครื่องยนต์ติด ปลดสายพ่วงด้านขั้วลบออกจากรถคันที่ไม่มีไฟก่อนแล้วจึงปลดด้านขั้วลบออกจากคันที่นำมาพ่วง และ ถอดสายพ่วงด้านขั้วบวกออกจากรถคันที่ไม่มีไฟแล้วจึงปลดออกจากคันที่นำมาพ่วง
ข้อควรระวัง : เวลาคีบสาย หรือ ถอดสายแบตเตอรี่แล้วไม่ควรให้ขั้วบวกและขั้วลบแตะโดนกันเพราะจะทำให้แบตเตอรี่เกิดลัดวงจรอาจทำให้เกิดอันตรายได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น