เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หากจะพูดถึงศัลยกรรมยกกระชับผิวหน้า แน่นอนว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะคิดถึงการฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์เป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะทั้งสองวิธีนี้เป็นวิธียอดนิยมที่ทำให้ผู้หญิงท ี่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย บนใบหน้า สามารถกลับมามีผิวหน้าตึงกระชับได้อย่างไม่น่าเชื่อเ ลยทีเดียว
และด้วยความที่โบท็อกซ์ และ ฟิลเลอร์ ให้ผลลัพธ์ในการทำให้ใบหน้าเต่งตึงไม่ต่างกันเลย จึงทำให้หลายครั้ง ผู้หญิงหลายคนก็เข้าใจผิดว่ามันคือเทคโนโลยีชนิดเดีย วกันซะอย่างนั้น และทำให้เกิดความสับสนเอาได้ง่าย ๆ วันนี้ กระปุกดอทคอมก็เลยนำเรื่องราวเกี่ยวกับโบท็อกซ์และฟิ ลเลอร์มาฝากกันอีกครั้ง เพื่อให้ผู้หญิงเราได้เข้าใจถึงความแตกต่าง และการทำงานของเทคโนโลยีทั้งสองอย่างถูกต้อง และสามารถใช้บริการได้อย่างเหมาะสมนั่นเองค่ะ
เริ่ม ต้นที่โบท็อกซ์กันก่อน สำหรับการฉีดโบท็อกซ์นั้น เป็นวิธียกกระชับผิวหน้าที่จะแพทย์จะฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน ซึ่งเป็นสารพิษที่ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเข้า ไปใต้ชั้นผิวหนัง และแน่นอนว่า เมื่อมันถูกนำมาใช้กับผิวบริเวณตีนกา หรือหน้าผากที่มีรอยย่นแล้ว ก็จะทำให้ผิวที่หดเกร็งอยู่นั้นคลายตัว อีกทั้งยังมีการเจือจางตัวยาผสมกับ โบทูลินัม ท็อกซิน ไปกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิ วอีก กลายเป็นตัวช่วยให้ผิวเต่งตึงไร้ริ้วรอยอย่างสมบูรณ์ แบบเลยทีเดียว
ส่วนการฉีดฟิลเลอร์นั้น เป็นการฉีดเสริมส่วนที่ขาดหายไปในชั้นผิวหนัง เช่น รอยแผลเป็นขนาดเล็ก หลุมสิว ร่องแก้ม ตีนกา ให้ดูเต็มและเต่งตึงขึ้นมาได้ โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปเสริมคอลลาเจน และไฮยาลูรอนแนนใต้ผิว ทำให้ผิวในส่วนที่เป็นร่องลึกลงไป กลับมายืดหยุ่น เรียบเนียนเท่ากับผิวบริเวณโดยรอบได้ จึงทำให้ใบหน้าเต่งตึงอ่อนเยาว์ขึ้นมาได้อย่างไม่ต้อ งสงสัย และนอกจากนี้ ยังใช้ในการเสริมจมูก เสริมแก้บตอบ และเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มอีกด้วย
ข้อแตกต่างของโบท็อกซ์ กับฟิลเลอร์ จึงอยู่ตรงที่โบท็อกซ์นั้น เป็นการฉีดเพื่อ "ลด" การหดเกร็งของกล้ามเนื้อ แต่ฟิลเลอร์นั้นเป็นการฉีดสารเข้าไป "เพิ่ม" และเติมเต็มผิวบริเวณร่องลึกให้ตื้นขึ้นมานั่นเอง ดังนั้น แม้ว่ามองภายนอกแล้ว เราจะไม่ค่อยเห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ฉีดโบท็อกซ์ กับฟิลเลอร์มากนัก เพราะให้ความเต่งตึงของผิวเหมือนกัน แต่ในความรู้สึกของผู้ที่ได้รับการรักษา จะค่อนข้างแตกต่าง เพราะผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์ ถูกลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าลง จึงทำให้ไม่สามารถยิ้มหรือขมวดคิ้วได้อย่างเต็มที่ โดยจะรู้สึกตึง ๆ บริเวณใบหน้าตลอดเวลา แต่สำหรับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์กลับสามารถยิ้มและเกร็งใบ หน้าได้ตามปกติ แต่ใบหน้าก็จะดูไม่เป็นธรรมชาติเท่ากับผู้ที่ฉีดโบท็ อกซ์เท่าใดนัก
และนั่นก็คือข้อแตกต่างระหว่างโบท็อกซ์ กับฟิลเลอร์ ที่เรานำมาบอกเล่าให้ฟังกันวันนี้ แต่ถ้าหากอยากจะถามว่า วิธีใดจะดีกว่ากันนั้น ก็คงไม่อาจจะตัดสินได้ เพราะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน และผลลัพธ์ที่ค่อนข้างแตกต่างในความรู้สึกของผู้เข้า รับบริการด้วย ซึ่งหากจะให้สรุปข้อแตกต่าง เพื่อเปรียบเทียบ ก็สามารถแยกออกมาได้หลัก ๆ ดังนี้
โบท็อกซ์
สารที่ใช้ คือ โบทูลินัม ท็อกซิน หรือสารพิษชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดการคลายตัวและเป็นอั มพาตบริเวณกล้ามเนื้อที่ถูกฉีดเข้าไป
เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ผู้ฉีดจะไม่สามารถยิ้ม เกร็งใบหน้า หรือขมวดคิ้วได้เหมือนเดิม เพราะกล้ามเนื้อจะตึงมาก
ให้ผลลัพธ์ที่ดี ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ เพราะสารโบทูลินัม ท็อกซินจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับกล้ามเนื้อเท่านั้น ไม่มีการเสริมเติมใด ๆ
สารจะละลายหมดไปภายใน 5-6 เดือน ซึ่งผู้ฉีดจะสามารถกลับมายิ้มเต็มแก้มได้ ขมวดคิ้วได้อีกครั้ง แต่ริ้วรอยก็จะกลับมา
ฟิลเลอร์
สารที่ใช้ คือ คอลลาเจน หรือ ไฮยาลูรอนแนน ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่อยู่ในชั้นผิวของคนอยู่แล้ว ไม่เป็นอันตรายกับผิว
เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ผู้ฉีดจะสามารถยิ้มและเกร็งใบหน้าได้ตามปกติ แต่จะรู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้อแปลกปลอมอยู่ภายในผิวใน สัปดาห์แรก ๆ ที่ฉีดเท่านั้น
ให้ผลลัพธ์ที่ดี ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ แต่การฉีดเสริมขึ้นมาก ๆ อาจทำให้ผิวดูบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น การฉีดร่องแก้มให้ดูเต็ม เป็นต้น
สารละลายหมดไปภายใน 5-6 เดือน โดยจะค่อย ๆ ปรากฎริ้วรอยเดิมชัดเจนจนกว่าสารจะละลายไปหมด
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์ก็ตาม สาว ๆ จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องเลือกสถานที่ที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยสู งเป็นสำคัญ เพื่อที่จะไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง หรืออาจเสี่ยงหน้าพังจากการศัลยกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน ได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น